ปัญหาสุขภาพดวงตา เป็นสิ่งที่ทุกคนจะต้องให้ความสำคัญ และความใส่ใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะปัญหาสุขภาพดวงตาของผู้สูงอายุ ที่เป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม ในบทความนี้จะพาไปดูว่าปัญหาตาในผู้สูงอายุเกิดจากสาเหตุอะไร มีอาการเป็นอย่างไร มีวิธีป้องกันได้อย่างไรบ้าง พร้อมตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาสายตาผู้สูงอายุ ไปดูกันเลย
ทำไมผู้สูงอายุจึงมีปัญหาสุขภาพตา และปัญหารอบดวงตา
ในช่วงวัยสูงอายุ เป็นช่วงอายุที่สามารถเกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ ด้านจิตใจ รวมถึงการมองเห็น เพราะเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ดวงตาเองก็เกิดการเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตา ได้แก่ปัญหาในด้านการมองเห็น และปัญหารอบดวงตา โดยเมื่ออายุมากขึ้นเปลือกตาจะมีความยืดหยุ่นน้อยลง มีไขมันรอบดวงตาน้อยลง ทำให้เกิดความหย่อนคล้อยและเปลือกตาตก ซึ่งจะบดบังการมองเห็น รวมถึงส่งผลต่อภาพลักษณ์ และบุคลิกอีกด้วย นอกจากนั้นปัญหาตายังเกิดได้ที่ระบบน้ำตา กระจกตา และเลนส์ตา หรือแก้วตา ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุได้
10 ปัญหาตาผู้สูงอายุ พร้อมสาเหตุและอาการ
ปัญหาสุขภาพตา และปัญหารอบดวงตาของผู้สูงอายุนั้นเป็นปัญหาที่สามารถพบได้บ่อย จึงควรรู้ถึงปัญหาตาต่างๆ ในผู้สูงอายุเอาไว้ เพื่อที่จะได้สังเกตอาการ และตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหาได้ โดย 10 ปัญหาสายตาผู้สูงอายุที่พบบ่อย พร้อมสาเหตุ และอาการ มีดังนี้
1. ปัญหาสายตาสูงวัย
ปัญหาสายตาสูงวัย เป็นปัญหาที่เกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อของ “สายตายาว” หรือ “สายตายืด” ที่มีสาเหตุมาจากการที่เลนส์แก้วตามีความยืดหยุ่นน้อยลง และมีความแข็งมากขึ้น ส่งผลให้เลนส์แก้วตาไม่สามารถปรับตัวในการโฟกัสสิ่งต่างๆ ได้เหมือนเดิม และทำให้ไม่สามารถมองเห็นภาพในระยะใกล้ได้ชัดเจนเหมือนเดิมได้ ซึ่งปัญหาตาดังกล่าวนั้นอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การอ่านหนังสือ หรือการมองสิ่งต่างๆ ในระยะใกล้ ที่จะไม่ชัดเจนเหมือนในช่วงอายุก่อน 40 ปี
ลักษณะอาการ
ลักษณะอาการของปัญหาสายตาสูงวัยที่สามารถสังเกตได้ มีดังนี้
การมองเห็นในระยะใกล้ เช่นอ่านหนังสือ ดูหน้าจอมือถือไม่ชัดเจน
ถ้าหากต้องการมองในระยะใกล้จะต้องยืดแขนออกหรือหรี่ตามอง
รู้สึกปวดตา หรือปวดศีรษะจากการเพ่งมองในระยะใกล้เป็นเวลานานโดยไม่รู้ตัว
2. โรคตาแห้ง
โรคตาแห้ง หรือภาวะตาแห้ง เป็นอีกปัญหาตาที่สามารถพบได้ตั้งแต่ช่วงวัยทำงานไปจนถึงช่วงวัยสูงอายุ เพราะว่าปัญหาตาแห้งนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สายตาจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์นานๆ การใส่คอนแทคเลนส์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของร่างกายตามอายุ หรือการทำงานที่ผิดปกติของต่อมไขมันที่เปลือกตา ซึ่งปัญหาตาแห้งดังกล่าวนั้นสามารถส่งผลกระทบต่อดวงตาในระยะยาวได้ เช่น การมองเห็นภาพไม่ชัดเจน หรือกระจกตาเกิดการอักเสบได้ง่าย ดังนั้น ถ้าหากมีปัญหาตาแห้งควรรีบเข้าพบจักษุแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย และเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง
ลักษณะอาการ
สำหรับลักษณะอาการของปัญหาตาแห้ง หรือภาวะตาแห้งที่สามารถสังเกตได้ มีดังนี้
มองเห็นไม่ชัดเจน ภาพเบลอ หรือมองเห็นชัดบ้างไม่ชัดบ้าง
เกิดอาหารระคายเคืองตา แสบตา ตาล้า หรือไม่สบายตาได้ง่าย
ตาไม่สู้แสง หรือเกิดอาการน้ำตาไหลเวลาเจอแสงจ้า
ตาแดงได้ง่ายกว่าปกติ และอาจมีขี้ตาร่วมด้วย
รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในดวงตาตลอดเวลา
3. โรคจอประสาทตาเสื่อม
โรคจอประสาทตาเสื่อม เป็นปัญหาตาที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุเช่น อายุที่เพิ่มมากขึ้น เผชิญกับแสงจ้าเป็นประจำ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การส่งต่อทางพันธุกรรม หรือโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง หรือระดับคอเรสเตอรอลสูง เป็นต้น ส่งผลให้จุดรับภาพที่อยู่ในส่วนกลางของจอตาเกิดการเสื่อม ทำให้การมองเห็นภาพในส่วนกลางไม่ชัดเจน แต่บริเวณรอบข้างยังชัดเจนเป็นปกติ ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้นถ้าหากปล่อยไว้อาจส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นแบบถาวรได้
ลักษณะอาการ
สำหรับลักษณะอาการของปัญหาจอประสาทตาเสื่อมที่สามารถสังเกตได้ มีดังนี้
มีอาการตามัวตลอดเวลา
มองเห็นภาพบิดเบี้ยวจากเดิม
มองเห็นจุดดำที่กลางภาพ
มองเห็นภาพตรงกลางเบลอ หรือมองไม่เห็น แต่มองเห็นภาพบริเวณด้านข้างเป็นปกติ
4. โรคต้อหิน
โรคต้อหิน เป็นปัญหาตาที่เกิดจากการเสื่อมของเส้นประสาทตา หรือเส้นประสาทตาถูกทำลาย โดยส่วนใหญ่มักจะมีสาเหตุมาจากการที่ลูกตามีความดันสูง เพราะการระบายน้ำออกจากลูกตามีความผิดปกติ ที่อาจเกิดจากการเสื่อมสภาพตามอายุ หรือเกิดอุดตัน และเมื่อการระบายน้ำจากลูกตาผิดปกติ ก็จะส่งผลให้ความดันภายในลูกตาค่อยๆ เพิ่มขึ้น จนทำลายประสาทตา และส่งผลให้เกิดปัญหาตาเป็นต้อหินตามมาในที่สุด ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้นมักจะเกิดในช่วงวัยสูงอายุ และผู้ที่ครอบครัวมีประวัติเป็นต้อหิน ซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นถาวรได้
ลักษณะอาการ
สำหรับลักษณะอาการของปัญหาตาเป็นต้อหินที่สามารถสังเกตได้ มีดังนี้
มีอาการปวดดวงตา หรือปวดศีรษะ มองเห็นภาพเป็นสีรุ้ง
การมองเห็นด้านข้างเริ่มมีขอบดำไล่เข้ามาตรงกลางตาเรื่อยๆ
ในกรณีที่เป็นต้อหินเฉียบพลันจะมีอาการคลื่นไส้ หรืออาเจียนร่วมด้วย
ส่วนใหญ่ไม่มีอาการเตือน ดังนั้นการตรวจคัดกรองสุขภาพตาจึงจำเป็นอย่างมาก
5. โรคต้อกระจก
โรคต้อกระจก เป็นปัญหาตาที่สามารถพบได้บ่อยมากที่สุดในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยโรคต้อกระจกนั้นเกิดจากการเสื่อมสภาพของเลนส์ตา ที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นสีขุ่น สีเหลือง หรือสีชา ทำให้การมองเห็นภาพต่างๆ ชัดเจนน้อยลง และถ้าหากปล่อยปัญหาตาดังกล่าวทิ้งไว้เป็นเวลานานอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้
ลักษณะอาการ
สำหรับลักษณะอาการของปัญหาตาเป็นต้อกระจกที่สามารถสังเกตได้ มีดังนี้
มองเห็นเป็นภาพซ้อน
สายตามีความพร่ามัว
เริ่มมองเห็นไม่ชัดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
มองเห็นแสงเป็นภาพกระจาย
6. โรคต้อลมและต้อเนื้อ
โรคต้อลม เป็นปัญหาตาเป็นต้อที่พบได้บ่อยเช่นเดียวกันกับต้อหิน และต้อกระจก โดยมีสาเหตุมาจากการเสื่อมสภาพของเยื่อบุตาขาว ทำให้มีก้อนเนื้อสีขาว หรือสีเหลือง มีขนาดเล็ก และนูน ในบริเวณเยื่อบุตาขาว และมักจะพบในบริเวณหัวตา ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้นถ้าหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดการลุกลามของก้อนเนื้อไปยังบริเวณตาดำ หรือที่เรียกว่า “ต้อเนื้อ” ที่อาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นได้
ลักษณะอาการ
สำหรับลักษณะอาการของปัญหาตาเป็นต้อลมที่สามารถสังเกตได้ มีดังนี้
มีเนื้อเยื่อเกิดขึ้นในบริเวณตาขาว
ในกรณีที่มีอาการอักเสบจะมีอาการเจ็บตา เคืองตา คันตา แสบตา หรือน้ำตาไหล
รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอม หรือฝุ่นอยู่ในดวงตา
7. น้ำวุ้นตาเสื่อม
ปัญหาตาน้ำวุ้นตาเสื่อม เป็นปัญหาที่เกิดจากวุ้นตาเกิดการเสื่อมจนกลายสภาพเป็นน้ำ ส่งผลให้ภายในดวงตานั้นมีก้อนตะกอนขุ่นที่เกิดจากเส้นใยไฟเบอร์ในตาหด และจับตัวกัน รวมถึงมีการลอกออกจากผิวจอตา ทำให้เวลามองสิ่งต่างๆ นั้นจะเห็นเป็นเงาดำ โดยอาจจะเป็นจุดเล็กๆ สีดำ หรือเป็นวงๆ ลอยอยู่ภายในตา ซึ่งปัญหาตาดังกล่าวมักไม่ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นในระยะยาว
ลักษณะอาการ
สำหรับลักษณะอาการของปัญหาน้ำวุ้นตาเสื่อมที่สามารถสังเกตได้ มีดังนี้
มองเห็นจุดในลักษณะต่างๆ เช่น จุดสีดำ วงแหวน เส้นเกลียว หรือใยแมงมุม
มองเห็นจุดเคลื่อนไหวตามทุกครั้งที่เคลื่อนไหวดวงตา
มองเห็นจุดต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น เมื่อพื้นหลังเป็นสีพื้น หรือสีสว่าง
ในบางรายอาจมองเห็นแสงไฟสว่างวาบขึ้นมาในดวงตา
8. ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เป็นปัญหาที่สามารถพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เกิดจากการเสื่อมของเนื้อเยื่อต่างๆ ตามวัย และเมื่อมีอาการดังกล่าวก็จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหนังตาหย่อนคล้อย มีอาการเปลือกตาตก ตาดูปรือ ไม่สดใส หรือเกิดปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นได้ ซึ่งปัญหาตาดังกล่าวนั้นสามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด ทั้งนี้ ควรทำการปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจทำการผ่าตัด
ลักษณะอาการ
สำหรับลักษณะอาการของปัญหาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่สามารถสังเกตได้ มีดังนี้
หนังตาตกลงมาบังตาดำ หรือมีความหย่อนคล้อย
ลืมตา หรือมองเห็นภาพด้านบนลำบาก
ในบางรายอาจมีอาการปวดศีรษะร่วมด้วย เนื่องจากการเกร็งยกคิ้วเป็นเวลานาน
9. เอ็นตาล่างหย่อนคล้อยและมีถุงใต้ตา
ปัญหาเอ็นตาล่างหย่อนคล้อย เป็นปัญหาตาที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของเอ็นตาล่างตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้บริเวณเปลือกตาล่างมีความหย่อนคล้อย หางตาล่างมีตำแหน่งผิดปกติ และมีไขมันใต้ตานูนเกิดเป็นถุงใต้ตาดูเป็นก้อน อาจเกิดอาการเคืองตาได้ง่าย น้ำตาไหล หลับตาไม่สนิท และทำให้มีภาพลักษณ์โดยรวมของใบหน้าดูแก่กว่าวัย
ลักษณะอาการ
สำหรับลักษณะอาการของปัญหาเอ็นตาล่างหย่อนคล้อยที่สามารถสังเกตได้ มีดังนี้
เปลือกตาล่างม้วนเข้าหรือม้วนออก
เปลือกตาล่างหย่อนคล้อยไม่แนบกับดวงตา
หางตาล่างตก หรือผิดตำแหน่ง
ถุงใต้ตาเป็นก้อน หรือเป็นชั้น
10. หนังตาหย่อน
หนังตาหย่อน เป็นปัญหาตาที่เกิดขึ้นได้จากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผิวหนังบริเวณเปลือกตายืดออก และอาจตกลงมาปิดบริเวณดวงตา โดยหากเป็นรุนแรงอาจมีโอกาสตกลงมาถึงตาดำและส่งผลกระทบต่อการมองเห็นในระยะยาวได้
ลักษณะอาการ
สำหรับลักษณะอาการของปัญหาหนักตาหย่อนที่สามารถสังเกตได้ มีดังนี้
เริ่มมีอาการมองเห็นไม่ค่อยชัด ต้องเลิกคิ้วหรือเบิกตาช่วย
หนังตาตกจนเกือบปิดลูกตาสนิท
หนังตาตกในช่วงเวลาต่างๆ ไม่เท่ากัน เช่น ช่วงพักผ่อนน้อยจะมีอาการหนังตาตกมากกว่าปกติ
วิธีการป้องกันปัญหาสายตาผู้สูงอายุ
ถึงแม้ว่าปัญหาตานั้นจะเป็นปัญหาที่สามารถพบได้บ่อย และพบได้ง่ายในกลุ่มวัยผู้สูงอายุ แต่ว่าก็สามารถชะลอการเกิดปัญหาดังกล่าวได้ ด้วยการปฏิบัติตัวให้เหมาะสม เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสายตาจากปัจจัยภายนอก โดยวิธีการป้องกันปัญหาสายตาในผู้สูงอายุ มีดังนี้
อยู่ในที่แสงสว่างเพียงพอ เป็นวิธีการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะปัญหาสายตาในผู้สูงอายุโดยแนะนำให้ผู้สูงอายุอยู่ในที่ที่มีแสงสว่างเหมาะสม ไม่สว่างเกินไป และไม่มืดจนเกินไป
ดูโทรทัศน์ในระยะห่างที่พอดี เป็นวิธีการป้องกันปัญหาสายตาผู้สูงอายุที่ควรให้ผู้สูงอายุนั่งห่างจากโทรทัศน์ประมาณ 5 เท่าของขนาดโทรทัศน์ เพื่อให้การรับภาพอยู่ในช่วงที่เหมาะสม และป้องกันไม่ให้ผู้สูงอายุใช้สายตาในการเพ่งมากเกินไป
ใช้แว่นสายตาที่เหมาะสม เป็นวิธีการป้องกันปัญหาสายตาผู้สูงอายุที่ควรให้ผู้สูงอายุใช้แว่นตาที่เหมาะสมกับค่าสายตา หรือสุขภาพตา เพื่อช่วยให้เวลาที่อ่านหนังสือ เล่นโทรศัพท์ หรือช่วงที่ใช้สายตานั้นไม่ต้องเพ่งจนมากเกินไป และอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดตา และปวดศีรษะตามมาได้
ตรวจสุขภาพดวงตาประจำทุกปี เป็นวิธีกการป้องกันปัญหาสายตาผู้สูงอายุที่ควรพาผู้สูงอายุไปตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี เพราะถ้าหากมีปัญหาสุขภาพตา จะได้รับการตรวจวินิจฉัย และรับการรักษาได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะโรคที่ไม่มีอาการนำ เช่นต้อหิน ซึ่งหากรักษาช้าจะสูญเสียการมองเห็นถาวรได้
อาหารบำรุงสายตา ป้องกันปัญหาตาในผู้สูงอายุ
การรับประทานอาหารบำรุงสายตา เป็นอีกวิธีในการช่วยป้องกันปัญหาสายตาในผู้สูงอายุ โดยอาหารที่มีสรรพคุณในการช่วยบำรุงสายตา มีดังนี้
ผัก และผลไม้ 5 สี เป็นอาหารบำรุงสายตาที่เป็นผัก และผลไม้ที่มีสีเขียว สีแดง สีม่วง สีเหลือง หรือสีส้ม และสีขาว หรือสีน้ำตาล ที่ควรให้ผู้สูงอายุรับประทานให้ครบทุกสี เพราะแต่ละสีนั้นมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงสายตาในแต่ละส่วน ช่วยชะลอการเสื่อม แถมยังช่วยบำรุงร่างกายอีกด้วย
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี เป็นอาหารบำรุงสายตาที่เป็นกลุ่มผลไม้รสเปรี้ยว เช่น สตรอว์เบอร์รี แบล็กเบอร์รี ราสป์เบอร์รี มัลเบอร์รี หรือบลูเบอร์รี เป็นต้น ที่ล้วนแต่มีสรรพคุณในการบำรุงสายตา ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของดวงตา และช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคต้อต่างๆ
ไข่ เป็นอาหารบำรุงสายตาที่เป็นแหล่งสารอาหารของลูทีน ที่มีสรรพคุณในการช่วยเสริมสร้างให้ดวงตามีความแข็งแรง และลดโอกาสในการเสื่อมของจอประสาทตาด้วย
ปลา เป็นอาหารบำรุงสายตาที่เป็นแหล่งสารอาหารของไขมันดี ที่มีสรรพคุณในการช่วยเสริมสร้างการทำงานของดวงตาให้มีประสิทธิภาพ ช่วยทำให้ดวงตามีความชุ่มชื้น และลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาตาแห้ง
ธัญพืช เป็นอาหารบำรุงสายตาที่อุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงสายตาให้มีความแข็งแรง ชะลอการเสื่อมของดวงตา และช่วยลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับดวงตา
ปัญหาตาในผู้สูงอายุสามารถแก้ไขด้วยการศัลยกรรมได้หรือไม่
สำหรับปัญหาตาของผู้สูงอายุนั้นจะสามารถแบ่งการรักษาได้เป็น 2 แบบ คือ การใช้ยา และการผ่าตัด แต่มักทำการรักษาทั้งสองแบบไปด้วยกันโดยขึ้นกับระยะของตัวโรคเอง ส่วนปัญหาตาที่ต้องได้รับการแก้ไขตาด้วยการศัลยกรรมเท่านั้น จะเป็นปัญหารอบดวงตาเช่น หนังตาตก กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เอ็นตาล่างหย่อนคล้อย หรือใต้ตาหย่อนคล้อย เพราะถ้าหากปล่อยให้ปัญหาทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลต่อการมองเห็นในอนาคตได้ ดังนั้นถ้าหากผู้สูงอายุมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา ควรเข้าพบจักษุแพทย์ก่อนว่าควรได้รับการรักษาแบบไหน ถึงจะเหมาะสมมากที่สุด
ทำไมต้องแก้ไขปัญหาตาในผู้สูงอายุที่ เศาณานนท์คลินิก
สำหรับปัญหาตาของผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีปัญหารอบดวงตาที่ต้องทำการแก้ไขตาด้วยการศัลยกรรม ที่ เศาณานนท์คลินิก (Saonanon Clinic) เป็นคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการแก้ไขปัญหาตา โดยเฉพาะปัญหารอบดวงตาของผู้สูงอายุ ที่มีเทคนิคในการผ่าตัดสำหรับผู้สูงอายุ ผ่าตัดโดยทีมแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญ และมากประสบการณ์ ไม่ว่าจะผ่าตัดแก้ไขเพื่อทำการรักษา หรือผ่าตัดแก้ไขเพื่อความสวยงาม ก็สามารถทำได้ และที่สำคัญ คือ เน้นถึงความปลอดภัยต่อดวงตา และผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ มาเป็นอันดับแรก จึงสามารถมั่นใจได้ว่าคำแนะนำ การรักษา การบริการ และผลลัพธ์ที่ได้นั้นเป็นประโยชน์ต่อคนไข้มากที่สุดอย่างแน่นอน
รีวิวการศัลยกรรมแก้ไขปัญหาตาต่างๆ
สรุป
“ดวงตา” เป็นอวัยวะสำคัญที่ทุกคนควรให้ความใส่ใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่มีอายุเพิ่มมากขึ้น ที่เป็นช่วงที่มีโอกาสในการเกิดปัญหาตาต่างๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาสายตาสูงวัย จอประสาทตาเสื่อม ภาวะน้ำวุ้นตาเสื่อม โรคตาแห้ง ต้อกระจก ต้อหิน ต้อลม เอ็นใต้ตาหย่อนคล้อย หรือเปลือกหนังตาตก เป็นต้น ที่ล้วนแต่เป็นปัญหาที่สามารถส่งผลกระทบต่อการมองเห็น และการใช้ชีวิตประจำวัน และถ้าหากปล่อยไว้ก็อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นแบบถาวรได้อีกด้วย ดังนั้น ถ้าหากมีปัญหาตาที่กล่าวมาในบทความนี้ ควรเข้าพบจักษุแพทย์ให้เร็วที่สุด เพื่อเข้ารับการวินิจฉัย และเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาตาในผู้สูงอายุ (FAQ)
สำหรับผู้ที่ยังมีข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับปัญหาสายตาผู้สูงอายุ เช่น ปัญหาตาในผู้สูงอายุอันตรายไหม ผู้สูงอายุมีโรคประจำตัวศัลยกรรมได้ไหม หรือถ้ามีปัญหาตา แต่ไม่แก้ไขจะส่งผลต่อการมองเห็นหรือไม่ ดังนั้น ในหัวข้อนี้จึงจะมาตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับปัญหาตาให้ทุกคนได้หายข้องใจกัน ดังนี้
หากผู้สูงอายุเป็นเบาหวาน หรือมีโรคประจำตัวสามารถศัลยกรรมได้หรือไม่
สำหรับผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว หรือเป็นโรคเบาหวานนั้นสามารถทำการศัลยกรรมได้หากควบคุมระดับน้ำตาลและระดับความดันเลือดได้ดี โดยควรทำการปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อน เพราะผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือเป็นโรคเบาหวานนั้นอาจมีโอกาสที่จะเกิดอาการแทรกซ้อนในระหว่างผ่าตัด และหลังผ่าตัดได้
หากศัลยกรรมแก้ไขปัญหาตาแล้ว จะกลับมาเป็นปัญหาเดิมหรือไม่
สำหรับผู้ที่มีปัญหาตา และทำการศัลยกรรมแก้ไขตาแล้ว อาจมีโอกาสที่จะกลับมาเป็นปัญหาเดิมเมื่ออายุมากขึ้นอีกได้ ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้ และเทคนิคในการผ่าตัดของแพทย์ด้วย
หากมีปัญหารอบดวงตาแล้วไม่แก้ไข จะส่งผลต่อการมองเห็นหรือไม่
สำหรับผู้ที่มีปัญหารอบดวงตา เช่น ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เอ็นตาล่างหย่อนคล้อย หรือเปลือกตาตก มีโอกาสที่เปลือกตาจะลงมาปิดดวงตา หรือรูปทรงตรงจะผิดปกติ ซึ่งถ้าเป็นแบบรุนแรงอาจส่งผลต่อการมองเห็นได้
Comentarios