โดยปกติการผ่าตัดรอบดวงตา หลายคนมักมองว่าเป็นเรื่องความสวยงามเป็นหลัก แต่การผ่าตัดแก้หนังตาตกในผู้สูงอายุนั้นต่างออกไป เพราะต้องคำนึงถึงปัญหา หรือความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตาร่วมด้วย บทความนี้ จึงอยากพาผู้อ่านทุกคนไปรู้จักกับอีกหนึ่งมิติของการผ่าตัดแก้หนังตาตกในผู้สูงอายุ และผลลัพธ์ของการแก้ไขปัญหาหนังตาตก รายละเอียดจะเป็นอย่างไรไปติดตามกันได้เลย
หนังตาตกในผู้สูงอายุ คืออะไร
หนังตาตกในผู้สูงอายุ คือ ภาวะที่เกิดได้ทั้งจากหนังตาหย่อน หรือกล้ามเนื้อเปิดตาอ่อนแรง ในบางกรณีอาจเกิดจากทั้งสองสาเหตุร่วมกันได้ด้วย ลักษณะของหนังตาตกในผู้สูงอายุสามารถสังเกตได้จากหนังตาที่หย่อนคล้อย เนื่องจากโครงสร้างของเปลือกตาที่เสื่อมสภาพ ทำให้ดูไม่สดใส และอาจจะเกิดปัญหาทางด้านการมองเห็นได้ในอนาคต
ประเภทของอาการหนังตาตกในผู้สูงอายุ
อาการหนังตาตกในผู้สูงอายุนั้น หากเจาะลึกลงไปในรายละเอียดแล้วจะพบว่ามีการแบ่งประเภทออกแยกย่อยเป็น 2 อาการ ดังนี้
หนังตาหย่อน (Dermatochalasis)
อาการของผู้ที่มีเปลือกตาหย่อน มักมีลักษณะของเส้นขอบเปลือกตาบนอยู่ในตำแหน่งปกติ มีเฉพาะหนังที่เกินลงมาส่งผลต่อความสวยงาม และอาจบดบังการมองเห็นได้ ส่วนมากแล้วอาการนี้มักเกิดขึ้นกับคนอายุมาก ผู้ที่ขยี้ตาบ่อย และผู้ที่เผชิญกับรังสี UVอย่างต่อเนื่อง
หนังตาตกจากกล้ามเนื้อเปิดตาอ่อนแรง (Blepharoptosis)
อาการหนังตาตกจากกล้ามเนื้อเปิดตาอ่อนแรง มีความแตกต่างจากอาการเปลือกตาหย่อนเล็กน้อย เนื่องจากขอบของเปลือกตาบนตกลงมามากกว่าปกติ จนบดบังบริเวณตาดำ ในบางรายการอาจส่งผลต่อความสามารถในการมองเห็นได้ ซึ่งอาการหนังตาตกอาจเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ โดยส่วนมากมักเกิดจากกล้ามเนื้อยกเปลือกตาทำงานน้อยกว่าปกติ ส่งผลให้เปลือกตาตกลงในที่สุด นอกจากนี้ หนังตาตกยังอาจพบร่วมกับอาการเปลือกตาหย่อนได้เช่นกัน การแก้ไขจึงต้องทำไปพร้อมกัน
สาเหตุของหนังตาตกในผู้สูงอายุ
สาเหตุของอาการหนังตาตกในผู้สูงอายุนั้น เกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ หากสาเหตุนั้นเกิดจากกล้ามเนื้อตาตกฉับพลัน ทำให้เปลือกตาตกข้างเดียว อาจเป็นสัญญาณของร่างกายที่ผิดปกติขั้นรุนแรง ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ป้องกัน และเข้าใจที่มาของอาการหนังตาตกในผู้สูงอายุ ไปพบกับ 5 สาเหตุหลักที่ผู้สูงอายุหนังตาตกกันได้ ดังนี้
หนังตาตกจากการมีอายุที่มากขึ้น
หนังตาตกจากการมีอายุที่มากขึ้น เกิดจากความสามารถในการยืดหดของพังผืดกล้ามเนื้อยกตาเสื่อมประสิทธิภาพลง ซึ่งถือเป็นสาเหตุสำคัญอันดับต้นๆ ของอาการหนังตาตกในผู้สูงอายุ เพราะยิ่งอายุมาก ก็มีโอกาสที่พังผืดกล้ามเนื้อตาจะหลุดออกจากตำแหน่งที่เกาะ ทำให้กล้ามเนื้อตา และผิวหนังรอบเปลือกตาตกลงอย่างเห็นได้ชัด
หนังตาตกตั้งแต่กำเนิด
ในกลุ่มผู้ที่มีอาการหนังตาตกมาตั้งแต่กำเนิด เกิดจากพังผืด และกล้ามเนื้อยกเปลือกตาที่ทำงานผิดปกติ ส่งผลให้หนังตาตก สร้างปัญหาในการมองเห็น โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ไม่ได้รับการแก้ไขตั้งแต่เด็ก สังเกตได้จากบางคนต้องย่นหน้าผากช่วยตลอดเวลา หรือมักเงยหน้าเพื่อจ้องมองอยู่เสมอ แต่เมื่ออายุมากขึ้น หนังตาปิดลงมามากเกินกว่าที่จะยกหน้าผากช่วยได้ จนส่งผลให้มีปัญหาด้านการมองเห็น จึงจำเป็นต้องเข้ามาพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
หนังตาตกจากอุบัติเหตุรอบดวงตา
หากเกิดอุบัติเหตุบริเวณรอบดวงตาที่ส่งผลกระทบกับกล้ามเนื้อตา จนสร้างความบาดเจ็บ หรือสร้างความผิดปกติกับหนังตา ก็มีโอกาสสูงที่จะทำให้กล้ามเนื้อตาตกได้ นอกจากนี้ การขยี้ตาต่อเนื่องอย่างยาวนาน และการใช้คอนแทคเลนส์แบบแข็งเป็นเวลานานมากเกินไป ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้กล้ามเนื้อตาตกได้เช่นเดียวกัน
หนังตาตกจากระบบประสาททำงานผิดปกติ
ในกลุ่มนี้เกิดจากเส้นประสาท หรือสารสื่อประสาทของกล้ามเนื้อตาที่ทำงานได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร คุณสามารถสังเกตอาการอื่นๆ ร่วมด้วยได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการตาเหล่ การเห็นภาพซ้อน หรือแม้แต่การขาดความสามารถในการกลอกตา ทั้งหมดล้วนมาจากความผิดปกติของการทำงานของเส้นประสาทกล้ามเนื้อตา
นอกจากนี้ อาการหนังตาตกในผู้สูงอายุในกลุ่มนี้ยังอาจเกิดจากผลกระทบของโรคทางระบบประสาทสมองคู่ที่ 3 อย่างโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง โรคระบบประสาทอัตโนมัติ หรือโรคหลอดเลือดสมองโป่งพองกดทับเส้นประสาท และเส้นประสาทสมองเป็นอัมพาต ซึ่งอาจทำให้กล้ามเนื้อตาตกข้างใดข้างหนึ่งไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ
หนังตาตกจากการมีเนื้องอก
สาเหตุสุดท้ายของอาการหนังตาตกในผู้สูงอายุ คือ เนื้องอกที่ขึ้นอยู่เหนือเปลือกตาบน ทำให้หนังตาตก และหย่อนคล้อยกว่าปกติ โดยมักมีอาการหนังตาบวมในเบื้องต้น และเริ่มมีปัญหาในการมองเห็นอย่างชัดเจน หากไม่รีบรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นแบบถาวรได้
ทำไมต้องผ่าตัดแก้หนังตาตกในผู้สูงอายุ
เมื่อมีอายุมากขึ้น กล้ามเนื้อตายิ่งตกลงจนเห็นได้ชัด นอกจากเรื่องของความสวยงาม และความสดใสบนใบหน้าที่ลดลง จนทำให้ไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตแล้ว ยังมีอีกหลากหลายเหตุผลที่เป็นข้อเสีย และเหตุผลที่ว่าทำไมคุณถึงต้องผ่าตัดแก้หนังตาตก มีดังนี้
บดบังการมองเห็น
เปลี่ยนลักษณะเปลือกตา จากตาสองชั้นเป็นตาชั้นเดียว ทำให้ดูแก่กว่าวัย
มีความเสี่ยงที่จะทำให้ขนตาทิ่มดวงตาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
เพิ่มโอกาสในการเกิดแผลอักเสบจากการเสียดสีของหางตาได้
วิธีผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกในผู้สูงอายุ
สำหรับการผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกในผู้สูงอายุจะแตกต่างจากการผ่าตัดตาสองชั้นทั่วไป เนื่องจากการแก้ไขเปลือกตาของผู้สูงอายุมีความซับซ้อนกว่ามาก เพราะอาจมีภาวะกล้ามเนื้อเปิดตาอ่อนแรง อาการหนังตาตกในผู้สูงอายุจึงต้องทำการเข้าพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา และประเมินอาการเพื่อหาแนวทาง หรือวิธีการรักษาที่เหมาะสม ในส่วนของรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีผ่าตัดหนังตาตกในผู้สูงอายุ กรณีที่ไม่ได้มีปัญหากล้ามเนื้อเปิดตาอ่อนแรง สามารถแบ่งตามลักษณะของแผลได้ 2 วิธี ดังนี้
การลงแผลที่เปลือกตา (Upper Blepharoplasty)
วิธีนี้เป็นการผ่าตัดลงบนเปลือกตา สำหรับผู้ที่มีชั้นไขมัน หรือเนื้อบริเวณเปลือกตาจำนวนมาก การเลือกผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกด้วยวิธีนี้อาจทำให้เกิดแผลที่เห็นได้ชัดช่วงหางตาได้ วิธีการผ่าตัดลงแผลที่เปลือกตาจึงเหมาะกับผู้ที่มีตาชั้นเดียว ต้องการตาสองชั้น และผู้ที่มีชั้นไขมันบนเปลือกตาไม่มาก
ข้อดีของวิธีการลงแผลที่เปลือกตา เป็นวิธีที่ทำให้ได้ตาสองชั้นที่ชัดเจน โดยเฉพาะผู้ที่มีตาชั้นเดียว
ข้อเสียของวิธีการลงแผลที่เปลือกตา อาจทำให้เกิดแผลบริเวณหางตาได้สำหรับผู้ที่มีเนื้อบริเวณเปลือกตาจำนวนมาก
การลงแผลที่ใต้คิ้ว (Subbrow Blepharoplasty)
การผ่าตัดในลักษณะลงแผลใต้คิ้ว เป็นการเย็บซ่อนแผลไว้ที่ใต้คิ้ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีตาสองชั้นอยู่แล้ว และไม่ต้องการปรับเปลี่ยนชั้นตาเพิ่มเติม เนื่องจากการผ่าตัดด้วยวิธีนี้ไม่ได้เป็นการเย็บแบบยึด หรือปรับชั้นตา
ข้อดีของวิธีการลงแผลที่ใต้คิ้ว ซ่อนแผลได้ดี แทบจะมองไม่เห็นแผลที่ผ่าตัดไป
ข้อเสียของวิธีการลงแผลที่ใต้คิ้ว ไม่ได้ช่วยในเรื่องของการปรับแต่งชั้นตาแต่อย่างใด
ข้อควรระวังในการผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกในผู้สูงอายุ
จากที่กล่าวไปข้างต้น การผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกในผู้สูงอายุ มีความยากมากกว่าการผ่าตัดชั้นตาเพื่อความสวยงาม เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึง และระวังเป็นพิเศษ สิ่งที่สำคัญ และไม่ควรมองข้ามคือการประเมินก่อนผ่าตัดโดยจักษุแพทย์ที่มีความชำนาญสูง เพราะต้องประเมินลักษณะของเปลือกตา วิเคราะห์ปัญหาเชิงลึก และวางแผนการผ่าตัดอย่างรอบคอบ ทำให้การผ่าตัดลักษณะนี้มีข้อควรระวังที่คุณต้องรู้เบื้องต้น ดังนี้
การแจ้งโรคประจำตัวก่อนผ่าตัด
ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดควรแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับโรคประจำตัว และยาที่รับประทานให้กับแพทย์ผู้ผ่าตัดโดยละเอียด เนื่องจากมีตัวยาบางประเภทอย่าง ยาละลายลิ่มเลือด น้ำมันปลา หรือวิตามินอี ซึ่งต้องหยุดใช้ก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 7 วัน รวมโรคประจำตัวอื่นๆ ที่ต้องควบคุมให้ปกติก่อนการผ่าตัด
การแจ้งโรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา
สำหรับบางคนที่มีอาการผิดปกติบริเวณรอบดวงตา หรือโรคเกี่ยวกับตาจำเป็นอย่างมากที่จะต้องแจ้งให้กับแพทย์ผู้ผ่าตัดทราบ เนื่องจากแพทย์จะได้นำข้อมูลในส่วนนี้มาวางแผนสำหรับการผ่าตัด และระมัดระวังในส่วนที่มีปัญหาเป็นพิเศษ และที่สำคัญคืออาการผิดปกติในผู้สูงอายุ เช่น ภาวะขนตาม้วนทิ่มดวงตา ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ภาวะตาแห้ง ปัญหากระจกตก และปัญหาค่าสายตาผิดปกติ เป็นต้น ก่อนการผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกในผู้สูงอายุ จึงควรแจ้งให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด
มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เป็นภาวะที่พบได้มากในผู้สูงวัย ทำให้ต้องอาศัยการตรวจประเมินจากแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น โดยทั่วไปมักมีอาการหนังตาตกมาก และมีอาการตาปรือ รวมถึงต้องเงยหน้าเพื่อมองอยู่บ่อยๆ จนเสียบุคลิกภาพ อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดเพื่อเก็บชั้นตาอย่างเดียว ไม่สามารถแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หรืออาการตาปรือแต่อย่างใด แต่การผ่าตัดควรทำร่วมกับการผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซึ่งเป็นการรักษาอาการดังกล่าวได้อย่างตรงจุดมากกว่า
มีหนังตามาก
ก่อนการผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกในผู้สูงอายุ ต้องสังเกตก่อนว่าเป้นผู้มีหนังตามากหรือไม่ เพราะการมีหนังตามาก ถือเป็นอีกหนึ่งอาการที่มักเกิดขึ้นกับผู้สูงวัย กล่าวคือ เป็นอาการที่หนังตาตกลงมามากจนบดบังการมองเห็น ซึ่งปัญหานี้ต้องทำการตัดหนังตาที่หย่อนลงมา พร้อมกับเย็บหนังตาให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย แน่นอนว่าวิธีการผ่าตัดในลักษณะนี้จำเป็นต้องอาศัยจักษุแพทย์ผู้มีความชำนาญ และประสบการณ์เฉพาะทางเท่านั้น
ภาวะคิ้วตก
ภาวะคิ้วตก คือ ปัญหาที่พบเห็นได้อย่างเป็นปกติกับผู้สูงวัย โดยมีลักษณะที่สังเกตได้ชัดเมื่อคิ้วตกลงมาใกล้บริเวณดวงตาขึ้นเรื่อยๆ หากผู้เข้ารับการผ่าตัดมีอาการดังกล่าว แพทย์มักไม่แนะนำให้ทำการผ่าตัดเพื่อทำตาสองชั้นอย่างเดียว เนื่องจากหากผ่าตัดตาสองชั้นอย่างเดียว จะยิ่งทำให้พื้นที่ว่างระหว่างตา และคิ้วชิดกันเข้าไปอีก และอาจส่งผลต่อการมองเห็นในอนาคตได้
เบ้าตาลึกจากอายุที่มากขึ้น
การผ่าแก้ไขหนังตาตกในผู้สูงอายุต้องอาศัยการผ่าตัดหลายอย่างร่วมกัน เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อาจส่งผลต่อความลึกของดวงตาได้ ทำให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดที่เป็นผู้สูงวัยบางคน พบว่ามีเบ้าตาลึกเนื่องจากอายุที่มาก ในส่วนนี้แพทย์อาจต้องทำการผ่าตัดเพื่อเติมไขมันบริเวณเบ้าตา ร่วมกับการผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อเปิดตา เพื่อทำให้ดวงตากลับมาดูสดใส และใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
มีภาวะแผลอักเสบนาน หรือแผลหายช้า
สิ่งที่คุณต้องทราบให้ดีก่อนเข้ารับรักษา คือ การฟื้นตัวจากแผลหลังผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกในผู้สูงอายุนั้นอาจต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นที่นานกว่าปกติ เนื่องจากสภาพร่างกายที่เข้าสู่วัยชรา ทำให้ต้องใช้เวลามากกว่าคนหนุ่มสาว ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของการผ่าตัดในผู้สูงอายุ
เคยทำการผ่าตัดหนังตามาก่อน
หากผู้เข้ารับการผ่าตัดเคยทำชั้นตา หรือผ่าตัดในบริเวณดังกล่าวมาก่อน จำเป็นต้องแจ้งให้จักษุแพทย์ที่เข้ารับการปรึกษาทราบโดยละเอียด และต้องเข้าใจด้วยว่าการเข้ารับการผ่าตัดสำหรับแก้ไขหนังตาตกในผู้สูงอายุ ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมความงามอย่างเดียว แต่เป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขหนังตา และกล้ามเนื้อตาที่ทำงานผิดปกติร่วมด้วย
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดแก้หนังตาตกในผู้สูงอายุ
เพื่อให้การผ่าตัดหนังตาตกในผู้สูงอายุผ่านไปได้ด้วยดี และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ที่สนใจอยากเข้ารับการผ่าตัดควรทราบข้อมูลที่ครอบคลุมถึงการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดให้ได้มากที่สุด ในส่วนนี้ จึงอยากพาทุกคนไปเตรียมความรู้ก่อนเข้าผ่าตัดเพื่อแก้ไขหนังตาตกในผู้สูงอายุกัน
เข้าพบกับจักษุแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการผ่าตัด
แจ้งโรคประจำตัว และยาที่รับประทานอยู่ในปัจจุบัน
พักการรับประทานยาประเภทละลายลิ่มเลือดอย่างน้อย 7 วัน
งดรับประทานอาหารเสริม
งดสูบบุหรี่
งดดื่มแอลกอฮอล์
งดแต่งหน้า
การดูแลหลังผ่าตัดแก้หนังตาตกในผู้สูงอายุ
การผ่าตัดแก้หนังตาตกในผู้สูงอายุ เป็นการผ่าตัดเล็กที่ผู้เข้ารับการรักษาไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล และเพื่อให้ผลลัพธ์หลังการผ่าตัดเป็นไปได้ดี ะไน บวมช้ำน้อยลง การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดเป็นสิ่งที่คุณควรทราบ และทำตามอย่างเคร่งครัด โดยมีข้อปฏิบัติ ดังนี้
ประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม 1-3 วันแรกหลังการผ่าตัด
นอนหนุนหมอนสูงในช่วง 1-2 วันแรกหลังการผ่าตัด
ประคบอุ่น เช้า-เย็น 15 นาที ได้หลังจากที่ผ่านการผ่าตัดมา 3 วัน
ห้ามให้แผล หรือบริเวณที่ทำการผ่าตัดโดนน้ำ อย่างน้อย 3 วัน
ห้ามแคะ แกะ เกา หรือขยี้ตาแรงๆ
ทานยาให้ครบถ้วน และดูแลตัวเองตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
อาการหลังผ่าตัดแก้หนังตาตกในผู้สูงอายุ
อาการ หรือผลข้างเคียงหลังผ่าตัดเป็นเรื่องปกติที่พบได้อยู่เสมอๆ เช่นเดียวกับการผ่าตัดเพื่อแก้ไขหนังตาตกในผู้สูงอายุ ที่มีอาการหลังผ่าตัด แต่ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจแต่อย่างใด เพียงแค่ดูแลตัวเอง และรับประทานยาตามคำสั่งแพทย์ อาการหลังผ่าตัดจะมีอะไรบ้าง ไปติดตามกันได้เลย
บริเวณที่ผ่าตัดอาจมีอาการบวม หรือช้ำอย่างต่อเนื่อง 2-3 สัปดาห์ ก่อนจะค่อยๆ กลับมาฟื้นตัว และหายบวมได้ ซึ่งรอยช้ำจะหายไปจนกลายเป็นปกติภายใน 3-6 เดือน
ช่วง 1 เดือนแรก อาจมีอาการตาแห้ง เพราะอาการบวมของแผลที่ยังไม่เข้าที่ดี อีกทั้งอาจมีอาการแสบตา ตาพร่ามัว และน้ำตาไหลร่วมกันได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นแค่ในช่วงแรกหลังผ่าตัดเท่านั้น แนะนำให้ใช้น้ำตาเทียม ร่วมกับน้ำยาหยอดตาที่ได้รับจากแพทย์เพื่อบรรเทาอาการได้
หลังจากที่ตัดไหมแรกๆ จะปรากฏรอยแดงอ่อนๆ ทิ้งไว้ และต้องใช้เวลาประมาณ 3-6 เดือน เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟู จนกระทั่งรอยแผลจางหายไป
ศัลยกรรมแก้หนังตาตกในผู้สูงอายุที่ไหนดี?
การผ่าตัดแก้ไขหนังตาตกในผู้สูงอายุเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และต้องอาศัยความชำนาญของจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้สามารถออกแบบการรักษา และแก้ไขปัญหาของแต่ละเคสได้อย่างตรงจุด ทาง Saonanon Clinic(เศาณานนท์คลินิก) เรามีบริการผ่าตัดแก้หนังตาตกสำหรับผู้สูงอายุโดย รศ. พญ เปรมจิต และทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการตกแต่ง และเสริมสร้างบริเวณเปลือกตา ทำให้คุณสามารถมั่นใจเรื่องความเป็นมืออาชีพ และความพึงพอใจของ Saonanon Clinicได้ว่าเหนือชั้นกว่าคลินิกเสริมความงามทั่วไป หากสนใจสามารถเข้ามาปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงจุด และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อการตัดสินใจในการเข้าใช้บริการก่อนได้
แม้การผ่าตัดหนังตาตกในผู้สูงอายุมีข้อควรระวัง และเรื่องที่น่ากังวลใจอยู่หลายอย่าง แต่ถ้าได้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และประสบการณ์ในการผ่าตัดอย่างที่ Saonanon Clinic ก็หายห่วงไปได้ เพราะแพทย์จะทำการวิเคราะห์ ประเมินเคสเพื่อออกแบบการผ่าตัด และให้คำแนะนำกับคนไข้ก่อนเสมอ ทำให้คุณสามารถวางใจได้ว่าการผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาหนังตาตกจะมีประสิทธิภาพ และได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด