มีคำกล่าวที่ว่า ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ บางคนที่ตาเล็กอาจต้องการทำตาโต เพื่อให้ดูสวย และให้ดูมีความน่าค้นหามากขึ้น การศัลยกรรมตาสองชั้นจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีส่วนช่วยให้ตาดูโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เสริมสร้างความมั่นใจให้กับคนที่ตาเล็กแต่อยากตาโตได้มากขึ้น
การศัลยกรรมตาโตคืออะไร มีเทคนิคการทำอย่างไร เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาตาแบบไหน และการทำตาโตตามโหงวเฮ้งมีความสำคัญอย่างไร ไปดูกันได้เลยในบทความนี้
ทำความเข้าใจ ศัลยกรรมตาโต คืออะไร
ศัลยกรรมตาโต คือ การศัลยกรรมให้ตาโตขึ้นโดยการผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตา ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณหนังตา หรือเปลือกตา ช่วยในการเปิด และปิดเมื่อหลับตา หรือลืมตา โดยจะเป็นการผ่าตัดเพื่อให้กล้ามเนื้อตาเปิดได้เพิ่มมากขึ้น โดยสามารถทำควบคู่ไปกับการทำตาสองชั้น เปิดหัวตา เพื่อทำให้ตาโต กลมสวย และมีชั้นตาที่ดูเป็นธรรมชาติได้
ตาโตโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม ทำได้อย่างไร
ในปัจจุบันมีเทคนิคการทำตาให้ดูกลมโตแบบไม่ต้องศัลยกรรม และถึงแม้วิธีการต่อไปนี้จะช่วยให้ดวงตาดูกลมโตได้จริง แต่ก็ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาอย่างถาวร จะมีเทคนิคอะไรบ้างที่น่าสนใจ ไปดูกัน
การแต่งหน้า
การแต่งหน้าสามารถทำให้ดวงตาดูโตขึ้นได้ โดยมีวิธีการ ดังนี้
ทาอายแชโดว์ (Eyeshadow) สีเข้มตามแนวเปลือกตาเพื่อช่วยให้ตาดูกลมโต และมีมิติมากขึ้น
เขียนอินไลเนอร์ (Inliner) ของเปลือกตาบนด้วยสีดำ หรือสีน้ำตาลเข้ม แล้วไฮไลต์บริเวณหัวตา และเขียนอินไลเนอร์ของเปลือกตาล่างด้วยสีสว่างเพื่อให้ดวงตาดูกว้าง มีพื้นที่มากขึ้น
กรีดอายไลน์เนอร์ (Eyeliner) สีดำ หรือสีน้ำตาลเข้มเพื่อให้ดวงตาดูกลมโต
ดัดขนตาและปัดมาสคาร่า (Mascara) ให้ขนตางอนเด้ง หรืออาจติดขนตาปลอม เพื่อช่วยให้ดวงตาดูกลมโตมากขึ้น
ใส่คอนแทคเลนส์
การใส่คอนแทคเลนส์ทำให้ตาดูโตขึ้น โดยการเลือกใส่คอนแทคเลนส์แบบบิ๊กอาย (Big Eyes contact Lens) ช่วยเพิ่มพื้นที่บริเวณตาดำ ทำให้ดูตาโตขึ้นได้ ซึ่งมีหลากหลายขนาด หลายสีสันและลวดลายให้เลือกเลยทีเดียว แต่ควรระมัดระวังในการใส่บิ๊กอายให้ดี เพราะอาจทำให้ระคายเคืองตา หรือทำให้ตามีปัญหาได้
ติดสติกเกอร์ตาสองชั้น
การติดสติกเกอร์ตาสองชั้นทำให้ตาดูมีมิติ มีชั้นตาชัดเจน และตาดูโตขึ้น ซึ่งสติกเกอร์ตาสองชั้นนั้นมีหลายขนาด หลายรูปแบบให้เลือกใช้ ทั้งแบบกาวสองหน้า แบบใช้กาวติด หรือแบบตาข่าย เป็นต้น โดยจะทำการติดสติกเกอร์บริเวณเปลือกตาเพื่อช่วยให้ดวงตาดูกลมโต และมีมิติมากขึ้น แต่วิธีการนี้ควระวังในขั้นตอนการติดให้ดี เพราะอาจทำให้ตาได้รับบาดเจ็บได้
ศัลยกรรมตาโต ทำได้ด้วยเทคนิคใดบ้าง
สำหรับเทคนิคการทำตาให้ดูกลมโตโดยวิธีการศัลยกรรม มีหลายเทคนิค ดังนี้
เทคนิคการกรีดชั้นของหนังตาแล้วเย็บ
เทคนิคการกรีดชั้นของหนังตาแล้วเย็บ เป็นการผ่าตัดเป็นการทำตาสองชั้นถาวร โดยการนำผิวหนังเปลือกตาและไขมันใต้เปลือกตาบางส่วนออก เย็บเก็บกล้ามเนื้อเปลือกตา แล้วสร้างชั้นตาให้เป็นตาสองชั้นตามที่ต้องการ วิธีการนี้ช่วยให้ชั้นตาเป็นสองชั้นชัดเจน และทำให้ตาดูโตขึ้น ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะกับผู้ที่ผิวหนังบริเวณเปลือกตาหนา และมีไขมันใต้เปลือกตามากพอสมควร
เทคนิคการเย็บชั้นตาโดยไม่กรีดชั้นของหนังตา
เทคนิคการเย็บชั้นตาโดยไม่กรีดชั้นของหนังตา เป็นการศัลยกรรมทำตาสองชั้นโดยวิธีร้อยไหมแล้วเย็บที่เปลือกตา จึงมีโอกาสที่ไหมที่ร้อยไว้อาจหลุดได้ ซึ่งวิธีนี้เหมาะกับคนที่มีไขมันใต้เปลือกตาน้อย และผิวหนังใต้เปลือกตาไม่หย่อนคล้อยมากนัก โดยแพทย์จะทำการวัดระยะจากหัวตาถึงหางตาเพื่อกำหนดจุดเย็บ อาจเป็นการเย็บแบบ 2 จุด 3 จุด หรือ 5 จุด จากนั้นจะใช้ไหมเย็บเก็บเปลือกตา เพื่อสร้างชั้นตา และทำให้ตาดูโตขึ้น
เทคนิคการผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตา
เทคนิคการผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตา เป็นการผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อบริเวณเปลือกตาที่ใช้ในการเปิด และปิดตา เพื่อให้ตาเปิดได้มากขึ้น หรือทำให้ตาโตมากขึ้นนั่นเอง เป็นการศัลยกรรมตาโตเพื่อช่วยแก้ปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง และแก้ไขปัญหาตาเล็กโดยตรง ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้ตาโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิดหางตา
เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิดหางตา (Lateral canthoplasty) เป็นการศัลยกรรมปรับเอ็นตาด้านล่าง เพื่อให้มุมหางตากดลง ทำให้ทรงตาดูกว้างขึ้น ขอบตาล่างต่ำลง เหมาะสำหรับคนที่มีหางตาชี้ขึ้น หางตาสูงกว่าหัวตาตาดูแหลมแบบคนจีน การผ่าตัดเปิดหางตาจะช่วยให้ตาโตขึ้น และสามารถเปิดตาได้กว้างมากขึ้น
เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิดหัวตา
เทคนิคการผ่าตัดแบบเปิดหัวตา (Medial epicanthoplasty) เป็นการศัลยกรรมตกแต่งโดยการกรีดเปิดผิวหนังบริเวณหัวตาให้กว้างขึ้น ทำให้ทรงตาดูยาว มักทำคู่กับการทำตาสองชั้น เหมาะสำหรับคนที่ดวงตาดูสั้น ตาดูเข และมีตาสองชั้นหลบใน ซึ่งการผ่าตัดเปิดหัวตาจะช่วยให้ตาดูเป็นทรงตรง และยาวขึ้น ทำให้ตาดูกลมโตมากขึ้นได้
การศัลยกรรมตาโต เหมาะกับใคร
การศัลยกรรมตาโตเหมาะกับคนที่มีปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับดวงตา ดังนี้
ผู้ที่มีปัญหาตาเล็ก ตาสั้น และตาตี่
ผู้ที่มีปัญหาตาสองชั้นหลบใน
ผู้ที่ต้องการทำตาสองชั้น และต้องการให้ตาดูโตขึ้น
ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ตาง่วง และตาปรือ
ผู้ที่มีปัญหาตาไม่เท่ากัน
การศัลยกรรมตาโต ทำให้โหงวเฮ้งดีขึ้นอย่างไร
โหงวเฮ้งเป็นศาสตร์แห่งการทำนายของจีนที่เชื่อว่าบุคลิก รูปร่าง และหน้าตา สามารถบ่งบอกถึงนิสัย รวมไปถึงกำหนดโชคชะตาของคนได้ โดยเฉพาะโหงวเฮ้งดวงตา ซึ่งเป็นจุดเด่นของใบหน้า และเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่มักใช้เป็นปัจจัยหลักๆ ในการดูนิสัยใจคอ และดวงชะตาของคนนั้นๆ
การทำตาโตเสริมให้โหงวเฮ้งดีขึ้น นอกจากจะมีผลด้านความสวยงาม และความมั่นใจแล้ว ยังส่งผลต่อดวงชะตา อารมณ์ และบุคลิกภาพ ไปจนถึงช่วยเพิ่มโอกาสดีๆ ในชีวิตได้อีกด้วย โดยลักษณะโหงวเฮ้งของคนที่มีตากลมโต จะเป็นคนที่ดูสดใส กระฉับกระเฉง กระตือรือร้น น่าเอ็นดู และมีชีวิตที่ราบรื่น
เตรียมตัวก่อนทำศัลยกรรมตาโต ทำได้อย่างไร
ก่อนทำศัลยกรรมตาโตมีขั้นตอนการเตรียมตัวเพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจตามมา ดังนี้
งดสูบบุหรี่ และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาละลายลิ่มเลือด อาหารเสริม หรือวิตามินต่างๆ โดยเฉพาะ วิตามิน E และน้ำมันปลา เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
ปรึกษาและขอคำแนะนำในการเตรียมตัว รวมถึงแจ้งโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยากับแพทย์ก่อนรับการผ่าตัด
งดทานยากลุ่มแอสไพริน หรือไอบิวโพรเฟน ที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 7 วัน หรือตามคำแนะนำของแพทย์ หากไม่งดอาจส่งผลต่อการฟกช้ำ อาการบวม และอาการเลือดคั่งหลังผ่าตัด
งดแต่งหน้า และไม่ใส่คอนแทคเลนส์ในวันผ่าตัด
ควรสระผมให้เรียบร้อยก่อนผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมตาโต ทำได้อย่างไร
หลังทำการศัลยกรรมตาโตมีขั้นตอนการดูแลตัวเอง ดังนี้
หลังผ่าตัด 1-3 วันแรก สามารถใช้แผ่นเจลห่อผ้าสะอาดประคบเย็นเบาๆ เพื่อลดอาการบวม และยับยั้งเลือดที่ออกมาได้
หลังผ่าตัดวันที่ 4-5 ประคบน้ำอุ่นแทนเพื่อลดอาการฟกช้ำ
ช่วง 2 วันแรกหลังผ่าตัด ควรนอนหมอนสูงเพื่อช่วยลดอาการบวมช้ำ และหลีกเลี่ยงการนอนตะแคง
ห้ามแผลโดนน้ำประมาณ 3 วันแรกหลังผ่าตัด
ทำความสะอาดแผลโดยใช้ไม้พันสำลี ชุบน้ำเกลือเช็ดเบาๆ และซับแผลให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
หลีกเลี่ยงของหมักดอง อาหารทะเล ไข่ หรือของแสลงที่อาจทำให้แผลเกิดการอักเสบได้
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
งดออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ทำให้แผลเกิดการกระทบกระเทือน
ทานยาฆ่าเชื้อ และยาแก้อักเสบให้ครบตามคำแนะนำของแพทย์ และใช้ยาแก้ปวดเมื่อมีอาการปวด
ทำไมต้องทำศัลยกรรมตาโตที่ Saonanon Clinic (เศาณานนท์คลินิก)
ที่ เศาณานนท์คลินิก (Saonanon Clinic) มีใบรับรองมาตรฐาน และความปลอดภัย มีบริการศัลยกรรมตาโตโดย รศ.พญ.เปรมจิต เศาณานนท์ และทีมจักษุแพทย์เฉพาะทางจักษุศัลยกรรมตกแต่ง ที่ได้รับการยอมรับความสามารถทางวิชาการ และฝีมือการศัลยกรรมในระดับนานาชาติ ทำให้มั่นใจได้ถึงผลลัพธ์ในการรักษาที่ประณีต ปลอดภัย และได้มาตรฐาน อีกทั้งยังมีรีวิวการทำตาสองชั้น และการศัลยกรรมให้ตาโตขึ้นให้ชมก่อนตัดสินใจทำอีกด้วย
รีวิวการศัลยกรรมตาโต
สรุป
การศัลยกรรมตาโตเป็นการผ่าตัดเพื่อปรับแก้ไขกล้ามเนื้อบริเวณเปลือกตาให้ดวงตาดูกลมโต และดูสวยขึ้น มักทำร่วมกับการทำตาสองชั้นเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับผู้ที่มีปัญหาตาเล็ก ตาตี่ ตาสองชั้นหลบใน กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หรือตาไม่เท่ากัน และต้องการทำให้ตาโตเปิดกว้าง และดูสดใสมากขึ้น สามารถเลือกทำได้หลากหลายเทคนิคด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นวิธีการกรีดชั้นของหนังตาแล้วเย็บ การเย็บชั้นตาโดยไม่กรีดชั้นของหนังตา การผ่าตัดปรับกล้ามเนื้อตา การผ่าตัดแบบเปิดหางตา และการผ่าตัดแบบเปิดหัวตา
โดยผู้ที่สนใจควรศึกษาเกี่ยวกับการเตรียมตัว และแนวทางปฏิบัติเพื่อดูแลตัวเองหลังผ่าตัดให้ดี เพื่อให้การศัลยกรรมตาโตเป็นไปอย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน และทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ได้ตาโต สวยหวานตามแบบที่ต้องการ
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการศัลยกรรมตาโต
เมื่อได้รู้จักกับการศัลยกรรมทำตาสองชั้นเพื่อให้ตาดูโตขึ้นแล้ว บทความนี้ยังได้รวบรวมเอาคำถามที่พบบ่อย พร้อมมาบอกคำตอบเพื่อไขข้อข้องใจให้หลายๆ คนกัน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
การศัลยกรรมตาโตใช้เวลาพักฟื้นนานไหม?
การศัลยกรรมตาโตมีระยะเวลาในการพักฟื้นที่ต่างกันขึ้นอยู่กับความเร็วในการฟื้นตัวของแต่ละคน และเทคนิควิธีที่ใช้ในการผ่าตัด หากเป็นเทคนิคที่มีการกรีดเปิดผิวหนังเปลือกตา หัวตา หรือหางตาจะมีอาการบวม 2-3 วันแรก อาการบวมช้ำจะค่อยๆ หายไปภายในไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ และแผลผ่าตัดจะหายภายในระยะเวลา 1-3 เดือน แต่ถ้าหากเป็นเทคนิคการผ่าตัดแบบที่ไม่กรีดชั้นหนังตาจะมีอาการบวมน้อยมากจนแทบไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นเลย
การใส่คอนแทคเลนส์แบบบิ๊กอาย มีผลเสียอย่างไรบ้าง?
ข้อเสียของการใส่คอนแทคเลนส์แบบบิ๊กอาย คือ ทำให้เกิดอาการตาแห้ง อาจเกิดการอักเสบของกระจกตา หรือเยื่อตา และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ โดยเฉพาะหากใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ใส่ไม่ถูกวิธี หรือไม่รักษาความสะอาดในการเปลี่ยนน้ำยาฆ่าเชื้อ รวมถึงตลับใส่คอนแทคเลนส์นั้นไม่ได้มาตรฐาน
Comments