หนังตาตกเกิดจากอะไร ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นไหม รักษาอย่างไร?
- Saonanon Content

- 21 ต.ค.
- ยาว 2 นาที
Key Takeaway
อาการหนังตาตก คือเปลือกตาบนหย่อนลงมาปิดส่วนตาดำมากกว่าปกติ ทำให้ตาดูเล็ก ง่วงนอน หรือมองเห็นไม่ชัด ผู้ป่วยมักต้องเงยหน้าหรือยกคิ้วเพื่อมอง
สาเหตุหนังตาตกเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด อายุที่มากขึ้น กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง โรคร้ายแรง อุบัติเหตุ หรือหลังผ่าตัดตาหลายครั้ง
การรักษาหนังตาตกด้วยการผ่าตัด แพทย์แก้ไขโดยปรับกล้ามเนื้อ ตัดแต่งผิวหนัง หรือเติมไขมันร่วมกับการสร้างชั้นตาใหม่ เพื่อฟื้นฟูการมองเห็นและความสวยงาม
หนังตาตก หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้มองเห็นไม่ชัด เหนื่อยล้าตา ปวดตา และส่งผลต่อกิจกรรมประจำวัน รวมถึงรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปจนขาดความมั่นใจ
ใครที่สังเกตตัวเองแล้วรู้สึกว่าตาดูเศร้ากว่าปกติ หรือเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา อาจไม่ใช่แค่ความเหนื่อยล้าธรรมดา แต่เป็นสัญญาณของ ‘หนังตาตก’ ภาวะที่เปลือกตาบนหย่อนลงมาปิดบางส่วนของดวงตาโดยไม่รู้ตัว หนังตาตกเกิดจากความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด อายุมากขึ้น ความผิดปกติของระบบเส้นประสาท อุบัติเหตุรุนแรงบริเวณดวงตา โรคร้ายแรง หรือแม้แต่หลังการผ่าตัดตาหลายๆ ครั้ง ภาวะที่ใครหลายคนมองข้ามนี้ อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลต่อทั้งรูปลักษณ์และการมองเห็นโดยตรงเลยก็ได้ บทความนี้เลยชวนมาดูว่าอาการหนังตาตกเกิดจากอะไร และมีวิธีแก้หนังตาตกอย่างไรบ้าง!

อาการหนังตาตกคืออะไร?
หนังตาตก คือภาวะที่เปลือกตาบนหย่อนลงมาจนปิดส่วนของตาดำมากกว่าปกติ ทำให้การมองเห็นแคบลง ดวงตาดูเล็กลงหรือดูง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา คนที่มีอาการนี้สังเกตได้จากต้องเงยหน้า ยกคิ้ว หรือใช้แรงจากกล้ามเนื้อหน้าผากช่วยในการลืมตา บางรายอาจมีอาการตาเมื่อยล้า ปวดตา หรือมองเห็นได้ไม่ชัด โดยเฉพาะในช่วงเย็นหรือเวลาที่รู้สึกเหนื่อย อาการนี้อาจเกิดขึ้นข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ ขึ้นอยู่กับสาเหตุและระดับความรุนแรงของภาวะหนังตาตกนั้นๆ

ปัญหาหนังตาตกเกิดจากอะไร
หลายคนอาจเคยสังเกตว่าดวงตาดูเหนื่อยล้า หรือเปลือกตาบนหย่อนลงมามากกว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของภาวะหนังตาตก ที่ส่งผลต่อการมองเห็นและบุคลิกภาพได้ โดยสาเหตุของภาวะนี้มีหลายปัจจัย ดังนี้
1. หนังตาตกตั้งแต่กำเนิด
หนังตาตกตั้งแต่กำเนิดเกิดจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อเลวาเตอร์พัลพีบรา ซูพีเรียริส (Levator Palpebrae Superioris) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อหลักที่ยกเปลือกตาบน ทำให้หนังตาไม่สามารถลืมตาได้เต็มที่ ทำให้ดวงตาดูเล็กลงหรือมองเห็นไม่ชัด เจอได้ตั้งแต่แรกเกิดและส่งผลให้เด็กมีตาขี้เกียจ (Amblyopia) หากไม่ได้รับการรักษา ในบางกรณีอาจมีสาเหตุทางพันธุกรรม เช่น BPES ที่ทำให้ช่องตาแคบและมีพับหนังตาผิดปกติ
2. หนังตาตกเมื่ออายุมากขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อตาจะค่อยๆ เสื่อมสภาพและหย่อนตัวลงตามธรรมชาติ ทำให้หนังตาค่อยๆ ตกลงมาปิดส่วนของดวงตามากขึ้น นอกจากนี้ ผิวหนังบริเวณเปลือกตายังสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้หนังตาหย่อนตัวเพิ่มขึ้น ผู้สูงอายุหลายคนจึงมักต้องยกคิ้วหรือใช้แรงกล้ามเนื้อหน้าผากช่วยในการมองเห็น ภาวะนี้แม้เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ส่งผลต่อรูปลักษณ์และการมองเห็นได้
3. ความผิดปกติของระบบเส้นประสาท
หนังตาตกเกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อยกเปลือกตา เช่น เส้นประสาทโครนีอัล (Oculomotor Nerve) ถูกทำลายหรือทำงานบกพร่อง เส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงเส้นประสาทอุดตัน ทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อยกตาไม่พอ หรือมีก้อนเนื้อกดทับเส้นประสาท ทำให้กล้ามเนื้อลืมตาได้ไม่เต็มที่ ทำให้หนังตาตกลงมาปิดส่วนตาดำ ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดร่วมกับอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือมองเห็นภาพซ้อน (Double Vision) ภาวะนี้สามารถเกิดจากโรคประสาทบางชนิด การติดเชื้อ หรือภาวะทางสมองที่ส่งผลต่อเส้นประสาท
4. อุบัติเหตุรุนแรงบริเวณดวงตา
อุบัติเหตุที่ทำร้ายบริเวณดวงตาหรือโครงสร้างรอบดวงตา เช่น การกระแทกแรง หรือการบาดเจ็บลึก ทำให้ กล้ามเนื้อตา หรือเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อเสียหาย ผลลัพธ์คือหนังตาไม่สามารถยกขึ้นได้เต็มที่ ทำให้เปลือกตาตกลงมาปิดส่วนของตาดำ ผู้ป่วยบางรายอาจมีรอยแผล หรือพังผืดเกิดขึ้นรบกวนการทำงานของกล้ามเนื้อ ภาวะนี้นอกจากกระทบต่อรูปลักษณ์ ยังอาจทำให้การมองเห็นลดลง
5. หนังตาตกเพราะโรคร้ายแรง
บางโรคร้ายแรง เช่น เบาหวาน โรคไมแอสทีเนีย เกรฟิส (Myasthenia Gravis) หรือโรคหลอดเลือดสมอง ส่งผลต่อกล้ามเนื้อหรือตัวควบคุมเส้นประสาทที่ยกเปลือกตา ทำให้หนังตาลืมตาได้ไม่เต็มที่ สังเกตได้ว่าหนังตาตกเป็นครั้งคราวหรือมากขึ้นเมื่อเหนื่อย อาจเกิดจากผลกระทบของโรคที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือการสื่อสารระหว่างเส้นประสาทและกล้ามเนื้อบกพร่อง
6. หลังผ่าตัดตาหลายครั้ง
การผ่าตัดดวงตาหรือศัลยกรรมบริเวณเปลือกตาหลายครั้งอาจทำให้กล้ามเนื้อตา หรือเส้นเอ็นยึดเปลือกตาเกิดการบาดเจ็บหรือพังผืด ผลคือกล้ามเนื้อทำงานได้ไม่เต็มที่ หนังตาตกลงมาปิดส่วนตาดำ ผู้ป่วยบางรายอาจสังเกตเห็นว่าหนังตาหย่อนลงมากขึ้นหลังการผ่าตัดซ้ำๆ และอาจเกิดร่วมกับอาการตาเมื่อยล้าหรือมองเห็นไม่ชัดได้
‘หนังตาตก’ ปล่อยไว้ไม่แก้ไข ส่งผลกระทบต่อการมองเห็นไหม?
ปัญหาหนังตาตกหากปล่อยไว้โดยไม่แก้ไข อาจทำให้การมองเห็นถูกบดบังจนเห็นไม่ชัด หรือมองเห็นได้ไม่เต็มที่ ต้องเงยหน้าหรือขมวดคิ้วเพื่อช่วยเปิดตาให้มองเห็นภาพได้ดีขึ้นเรื่อยๆ หนังตาอาจกดทับขนตา ทำให้ขนตาม้วนทิ่มเข้าไปในดวงตาจนเกิดการระคายตาได้ นอกจากนี้ หนังตาตกอาจทำให้เกิดอาการตาล้า ปวดศีรษะ หรือปวดคอจากการเกร็งกล้ามเนื้อหน้าผากเพื่อพยุงหนังตา หนังตาตกทำให้ตาเล็กลง หรือตาไม่เท่ากัน ดูแก่กว่าวัย จนทำให้สูญเสียความมั่นใจ
อีกทั้งยังเสี่ยงทำให้ตาแห้งหรือเกิดภาวะตาขี้เกียจในเด็กได้ หากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ โดยรวมแล้วหนังตาตกไม่เพียงแค่ส่งผลในเรื่องความงาม แต่ยังมีผลกระทบที่รุนแรงต่อประสิทธิภาพการมองเห็นและคุณภาพชีวิตด้วย ดังนั้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสมทันเวลา

รักษาหนังตาตกด้วยวิธีผ่าตัด
การผ่าตัดหนังตาตกใช้เวลาประมาณ 30 - 90 นาที ขึ้นอยู่กับเทคนิคและความรุนแรงของอาการ หลังผ่าตัดจะมีอาการบวมและเขียวช้ำเล็กน้อย จะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1 - 2 สัปดาห์ ส่วนการล้างหน้าหรือล้างตาเบาๆ ทำได้หลังผ่านไปประมาณ 3 - 5 วัน ตามคำแนะนำแพทย์ การฟื้นตัวเต็มที่และเห็นผลชัดเจนใช้เวลาประมาณ 2 - 4 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและวิธีผ่าตัดที่ใช้
เทคนิคแก้ไขหนังตาตกในปัจจุบัน
เทคโนโลยีและเทคนิคผ่าตัดที่ทันสมัยสามารถแก้หนังตาตก และผ่าตัดผิวหนังส่วนเกินได้ดี กรณีที่กล้ามเนื้อเปิดตาอ่อนแรงแนะนำให้ดึงกล้ามเนื้อเปิดตาไปพร้อมกันกับการตัดแต่งหนังตาบน โดยการตัดแต่งหนังตาบนมีวิธีการผ่าตัดหลัก 2 วิธี ตามชนิดของแผล ดังนี้
การลงแผลที่เปลือกตา
การลงแผลที่เปลือกตาเป็นการผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาหนังตาบนหย่อนหรือต้องการสร้างชั้นตาใหม่ โดยแพทย์จะเย็บแผลเป็นชั้นตาใหม่ ทำให้สามารถกำหนดแนวชั้นตาให้ชัดเจนและสวยงาม เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีชั้นตาชัดเจน หรือชั้นตาหลบใน และมีเนื้อหนังตาเกินที่หางตาไม่มาก
ข้อดี สามารถสร้างชั้นตาใหม่หรือปรับแต่งให้สวยงามได้ตามรูปหน้าและความต้องการของคนที่เข้าผ่าตัด
ข้อเสีย หากมีเนื้อหนังตาเกินบริเวณหางตามาก อาจทำให้เกิดแผลเป็นที่หางตา และผลลัพธ์อาจไม่เรียบเนียนเท่าที่ต้องการ
การลงแผลที่ใต้คิ้ว
การผ่าตัดวิธีนี้เป็นการแก้ไขเปลือกตาให้ชั้นตาชัดเจนขึ้น โดยซ่อนแผลไว้ที่ใต้คิ้ว เมื่อแผลหายดีจะเนียนไปกับขอบล่างของคิ้ว ถ้ามีคิ้วหนาหรือเขียนคิ้วเพิ่มสามารถช่วยซ่อนแผลได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับคนที่มีตาสองชั้นอยู่แล้ว และไม่ต้องการปรับเปลี่ยนชั้นตา
ข้อดี แผลซ่อนอยู่ใต้คิ้วได้ดี ทำให้ได้รูปตาที่ดูเป็นธรรมชาติ และช่วยปรับหางตาให้ยกขึ้นอย่างสวยงาม
ข้อเสีย ไม่สามารถสร้างชั้นตาใหม่ได้ เหมาะกับการปรับแต่งหรือเสริมให้ชั้นตาชัดขึ้นเท่านั้น
การประเมินก่อนผ่าตัดแก้หนังตาตก
การผ่าตัดแก้หนังตาตกจำเป็นต้องเข้ารับการประเมินจากแพทย์ที่มีประสบการณ์ก่อนเสมอ เพื่อดูว่ามีอาการอื่นร่วมด้วยหรือไม่ เช่น ตาลึก ตาปรือ หรือกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ซึ่งภาวะเหล่านี้ต้องรักษาควบคู่ไปกับการผ่าตัด อีกทั้งช่วงวัยของคนเข้ารับการรักษาก็มีผลต่อวิธีและความซับซ้อนของการผ่าตัด ผู้สูงอายุมักมีหนังตาที่หย่อนมากกว่าและกล้ามเนื้อเสื่อม ทำให้การแก้ไขทำได้ยากกว่า จึงต้องมีข้อควรระวังพิเศษและประเมินอย่างละเอียดก่อนเริ่มผ่าตัด เพื่อให้ผลลัพธ์ด้านการมองเห็นและความสวยงามออกมาเหมาะสม
ประเมินโรคประจำตัวก่อนผ่าตัด
ผู้สูงอายุมักมีคิ้วตกร่วมกับหนังตาหย่อน เนื่องจากความหย่อนคล้อยตามวัย พบว่าตำแหน่งคิ้วต่ำกว่าขอบกระดูกกระบอกตา การแก้ไขคิ้วตกสามารถทำได้ด้วยการผ่าตัดยกคิ้ว และในกรณีที่มีหนังตาตกร่วมกับคิ้วตก การผ่าตัดต้องทำอย่างระมัดระวัง เพราะหากผ่าตัดแก้หนังตาเพียงอย่างเดียวโดยไม่ยกคิ้ว อาจทำให้ตากับคิ้วอยู่ชิดกันเกินไป ส่งผลให้รูปลักษณ์ดูไม่เป็นธรรมชาติ การวางแผนผ่าตัดจึงควรพิจารณาทั้งสองส่วนร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่สมดุล
ประเมินปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
ลักษณะของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงคือ หนังตาหย่อนคล้อยหรือตาปรือ จนผู้ป่วยต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อมอง หรือย่นหน้าผากตลอดเวลา การผ่าตัดในกรณีนี้จึงไม่สามารถทำแค่ด้านนอกเท่านั้น แต่ต้องแก้ไขที่ชั้นกล้ามเนื้อด้านในร่วมกับการตัดแต่งผิวหนังด้านนอกไปพร้อมกัน เพื่อให้เปลือกตาทำงานได้เต็มที่และการมองเห็นกลับมาปกติ รวมถึงได้ผลลัพธ์สมดุลกับใบหน้า
ประเมินปัญหาหนังตาบนเกิน
บางรายที่ไม่ได้มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง อาการหนังตาตกเกิดจากหนังตามากจนหย่อนลงมาบดบังดวงตาโดยตรง การแก้ไขในกรณีนี้ทำได้โดยผ่าตัดตัดหนังตาส่วนเกินออก โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขกล้ามเนื้อตา แต่ต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ผลลัพธ์เหมาะสม
ประเมินภาวะคิ้วตก
ผู้สูงอายุมักมีคิ้วตกร่วมกับหนังตาหย่อน เนื่องจากความหย่อนคล้อยตามวัย พบว่าตำแหน่งคิ้วต่ำกว่าขอบกระดูกกระบอกตา การแก้ไขคิ้วตกทำได้ด้วยการผ่าตัดยกคิ้ว และในกรณีที่มีหนังตาตกร่วมกับคิ้วตก การผ่าตัดต้องทำอย่างระมัดระวัง เพราะหากผ่าตัดแก้หนังตาเพียงอย่างเดียวโดยไม่ยกคิ้ว อาจทำให้ตากับคิ้วอยู่ชิดกันเกินไป ส่งผลให้รูปลักษณ์ดูไม่เป็นธรรมชาติ การวางแผนผ่าตัดจึงควรพิจารณาทั้งสองส่วนร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ที่สมดุล
ประเมินภาวะเบ้าตาลึก
บางรายเมื่ออายุมากขึ้น ไขมันในชั้นเปลือกตาลดลง ทำให้เกิดเบ้าตาลึก ส่งผลให้ชั้นตาดูเป็นหลายชั้นหรือเป็นตาชั้นเดียวที่ลึกเข้าไป การแก้ไขในกรณีนี้สามารถทำได้โดยผ่าตัดเติมไขมันที่เบ้าตา เพื่อปรับให้ชั้นตาดูเต็มและเป็นธรรมชาติ พร้อมกันนี้ หากผู้ป่วยมีภาวะกล้ามเนื้อเปิดตาอ่อนแรงร่วมด้วย แพทย์จะทำการแก้ไขกล้ามเนื้อควบคู่กันไป เพื่อให้การลืมตาเป็นปกติและได้ผลลัพธ์ด้านความสวยงามครบถ้วน
ประเมินเคสแก้ที่เคยผ่าตัดแก้หนังตาตกมาก่อน
สำหรับผู้ที่ เคยผ่าตัดแก้หนังตาตกมาก่อน อาจพบปัญหาเช่น ผิวรอบดวงตาด้านนอกมีรอยแผลเป็น, แผลเป็นด้านใน หรือพังผืดจากการผ่าตัดครั้งก่อน ทำให้ผลลัพธ์จากการรักษาอาจไม่ดีเท่าที่ควร การผ่าตัดครั้งต่อไปจึงต้อง ระมัดระวังเป็นพิเศษ และต้องทำโดย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สูง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทั้งด้านการมองเห็นและความสวยงามอย่างปลอดภัย
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดแก้หนังตาตก
ก่อนเข้ารับการผ่าตัดแก้หนังตาตก การเตรียมตัวอย่างเหมาะสมจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดี ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยสรุปเป็นข้อปฏิบัติสำคัญได้ดังนี้
ปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินอาการ ตรวจสอบว่ามีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คิ้วตก หรือโรคอื่นร่วมด้วย
แจ้งโรคประจำตัวและยาที่กินเป็นประจำ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือยาละลายลิ่มเลือด
งดอาหารหรือยาเสริมบางชนิด ตามคำแนะนำของแพทย์ก่อนวันผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงเลือดออกหรือภาวะแทรกซ้อน
เลี่ยงดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ อย่างน้อย 1 - 2 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัด
จัดเตรียมผู้ดูแลหลังผ่าตัด เพื่อช่วยดูแลเรื่องการพักฟื้น การล้างหน้า และการใช้ยาตามคำแนะนำ
พักผ่อนให้เพียงพอ และเตรียมจิตใจให้พร้อมกับการผ่าตัดและการฟื้นตัว
สำหรับผู้สูงอายุ ควรลองนอนราบประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อดูว่าสามารถทนท่านอนขณะผ่าตัดได้ไหม
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดแก้หนังตาตก
หลังการผ่าตัด การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมสำคัญต่อการฟื้นตัว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยสรุปเป็นข้อปฏิบัติสำคัญได้ดังนี้
ประคบเย็นบริเวณรอบตา ใน 1 - 2 ชั่วโมงแรก เพื่อลดอาการบวมและเขียวช้ำ
ประคบอุ่น หลังจากผ่าตัดไปแล้ว 3 - 5 วัน
กินยาและทายาตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและลดการอักเสบ
เลี่ยงขยี้ตาหรือถูตาแรงๆ เพื่อไม่ให้แผลฉีกหรือกล้ามเนื้อเสียหาย
ล้างหน้าเบาๆ และเลี่ยงโดนน้ำบริเวณแผล จนกว่าแพทย์จะอนุญาต
นอนยกศีรษะสูง ในช่วง 1 - 2 วันแรก เพื่อลดอาการบวม
เลี่ยงกิจกรรมหนักหรือออกกำลังกายแรงๆ ประมาณ 2 - 4 สัปดาห์จนกว่าจะหายดี
นัดหมายติดตามผลตามแพทย์กำหนด เพื่อให้แพทย์ตรวจดูการฟื้นตัวและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นทันที
ผ่าตัดแก้หนังตาตกต่างจากทำตาสองชั้นอย่างไร?
แม้ว่าทั้งการผ่าตัดแก้หนังตาตกและการทำตาสองชั้น จะเกี่ยวข้องกับเปลือกตาบนเหมือนกัน แต่มีจุดประสงค์และวิธีการต่างกัน ผ่าตัดแก้หนังตาตกเน้นที่การแก้ไขปัญหาหนังตาหย่อน เพื่อให้เปลือกตาสามารถลืมตาได้เต็มที่และปรับการมองเห็น อาจต้องแก้ไขกล้ามเนื้อหรือปรับไขมันผิวหนังร่วมด้วย
ทำตาสองชั้นเน้นที่การสร้างชั้นตาให้ชัดเจนสวยงาม โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขกล้ามเนื้อตาในทุกกรณี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปลักษณ์ให้ตาดูกลมโตหรือมีชั้นตาชัดขึ้น สรุปง่ายๆ คือการผ่าตัดแก้หนังตาตกเป็นเรื่องด้านการแพทย์และฟังก์ชันการมองเห็นเป็นหลัก ขณะที่การทำตาสองชั้นเน้นด้านความสวยงามเป็นหลักนั่นเอง

แก้ปัญหาหนังตาตกที่เศาณานนท์คลินิก (Saonanon) ดีอย่างไร
รศ.พญ.เปรมจิต เศาณานนท์ จักษุแพทย์ (จักษุตกแต่งและเสริมสร้าง) แพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการผ่าตัดเปลือกตา ทั้งเพื่อความสวยงามและการรักษาโรค
แพทย์ได้รับการยอมรับทั้งด้านความเชี่ยวชาญทางวิชาการและฝีมือการผ่าตัดในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในการแก้ไขตาสองชั้นจากการศัลยกรรม ถุงใต้ตา และหนังตาเกินในผู้สูงอายุ
มั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอนการรักษาจะดำเนินไปอย่างประณีต และได้มาตรฐาน ราคาสมเหตุสมผล พร้อมมีรีวิวเทียบให้ดูความต่างระหว่างก่อนทำและหลังทำ
คลินิกให้ความสำคัญกับผลลัพธ์และความพึงพอใจของผู้รับบริการเป็นหลัก มากกว่ามุ่งหวังผลกำไร จึงสามารถมั่นใจได้ว่าทุกคำแนะนำและการดูแลที่ได้รับ จะถูกออกแบบมาเพื่อประโยชน์และความเหมาะสมสำหรับคุณเสมอ
สรุป
หนังตาตกเกิดจากความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด อายุที่เพิ่มขึ้น ความผิดปกติของเส้นประสาท อุบัติเหตุ โรคร้ายแรง หรือหลังผ่าตัดตาหลายครั้ง การรักษาหลักคือการผ่าตัดแก้หนังตาตก โดยแพทย์จะประเมินภาวะร่วม เช่น กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คิ้วตก หรือเบ้าตาลึก เพื่อวางแผนการผ่าตัด การผ่าตัดอาจทำร่วมกับการสร้างชั้นตาใหม่หรือแก้ไขกล้ามเนื้อด้านในตามความเหมาะสม หลังผ่าตัดต้องดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดี
Saonanon Clinic เรามีแพทย์ด้านศัลยกรรมตาและแก้ไขหนังตาตก พร้อมประเมินอาการเบื้องต้น แนะนำวิธีผ่าตัดที่เหมาะสม และดูแลหลังผ่าตัดอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีบริการเสริมความงามรอบดวงตา เช่น การทำตาสองชั้นและปรับรูปหางตา เพื่อให้การมองเห็นและรูปตาสวยงามดูดี
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหนังตาตก (FAQ)
หนังตาตกหายเองได้ไหม?
หนังตาตกที่เกิดจากความเหนื่อยล้าหรืออ่อนเพลียบางครั้งอาจดีขึ้นและหายเองได้เมื่อพักผ่อนเพียงพอ แต่ถ้าเกิดจากกล้ามเนื้อตาหรือเส้นประสาทผิดปกติ จะไม่หายเองและต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ที่มีประสบการณ์
ตื่นมาแล้วหนังตาตก เกิดจากอะไรได้บ้าง?
หนังตาตกตอนตื่นอาจเกิดจากความเหนื่อยล้า นอนหลับไม่เพียงพอ หรือกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงชั่วคราว นอกจากนี้ยังอาจเกี่ยวกับอาการบวมคั่งของน้ำ หรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อตาและเปลือกตา
มีวิธีนวดแก้หนังตาตกไหม?
มีวิธีนวดคลึงเบาๆ บริเวณรอบดวงตาที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและเสริมสร้างกล้ามเนื้อตา เช่น การใช้นิ้วกลางนวดจากมุมตาด้านในไปด้านนอกและบริเวณใต้ตาอย่างนุ่มนวล ประมาณวันละ 5 - 10 นาที วิธีนี้ช่วยลดความตึงเครียดและอาจช่วยให้หนังตากระชับขึ้นได้บ้าง แต่ถ้าอาการรุนแรงควรปรึกษาแพทย์
หนังตาตกมีอาการปวดหัวไหม?
หนังตาตกอาจทำให้เกิดอาการปวดหัว เนื่องจากผู้ป่วยจะพยายามเกร็งกล้ามเนื้อหน้าผากเพื่อยกเปลือกตาให้สูงขึ้น การทำแบบนี้ส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณศีรษะและคอตึงเครียด ซึ่งอาจทำให้ปวดหัวและรู้สึกไม่สบายได้






ความคิดเห็น