ทำไมควรทำตาสองชั้นกับจักษุแพทย์? ไขข้อสงสัย ปลอดภัยกว่าอย่างไร

Key Takeaway

• จักษุแพทย์คือแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านดวงตา ผ่านการเรียนและฝึกเฉพาะทางเกี่ยวกับโครงสร้าง กล้ามเนื้อ และการทำงานของดวงตา จึงออกแบบชั้นตาได้ปลอดภัยและเหมาะกับสรีระจริงของแต่ละคน

• ความแตกต่างระหว่างศัลยแพทย์ทั่วไปกับจักษุแพทย์ คือศัลยแพทย์ทั่วไปเน้นความงามเป็นหลัก ในขณะที่จักษุแพทย์เข้าใจการทำงานของดวงตาระดับลึก เช่น กล้ามเนื้อตาและเส้นประสาท ทำให้ประเมินความเสี่ยงและวางแผนผ่าตัดได้ลึกกว่า

• ทำตาสองชั้นกับจักษุแพทย์เสี่ยงน้อย ด้วยความรู้เรื่องโครงสร้างดวงตาเชิงลึก จักษุแพทย์สามารถเลือกเทคนิคที่เหมาะสม ป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น ตาปิดไม่สนิท ตาแห้ง หรือชั้นตาไม่เท่ากันได้

• เคสที่ควรเลือกทำกับจักษุแพทย์เป็นพิเศษ เช่น กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เคยทำตามาแล้วไม่เท่ากัน หรือมีปัญหาดวงตาเรื้อรัง ที่ต้องประเมินละเอียดและเทคนิคเฉพาะ เพื่อให้ผลลัพธ์ดูดีและตาใช้งานได้ปลอดภัยในระยะยาว

บางครั้งเรามองกระจกแล้วรู้สึกว่า ถ้าชั้นตาชัดขึ้นอีกนิด หน้าคงดูสดใสขึ้นเยอะเลย แต่พอคิดจะทำตาสองชั้น ก็แอบกังวลว่าจะออกมาดีไหม? นี่จึงเป็นเหตุผลที่หลายคนเลือกทำตาสองชั้นกับ ‘จักษุแพทย์’ หมอตาที่เข้าใจทั้งโครงสร้าง ความปลอดภัย และความแตกต่างของเปลือกตาแต่ละคน

การทำตาสองชั้นควรอยู่ในมือจักษุแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านดวงตา เพื่อผลลัพธ์ที่ถูกใจ เหมาะสมกับแต่ละบุคคล พร้อมให้คำแนะนำก่อน - หลังทำที่ช่วยเลี่ยงผลข้างเคียง เพื่อให้ได้ชั้นตาที่สวย ใช้งานได้ดี และมั่นใจขึ้นทุกครั้งที่สบตาตัวเองในกระจก

ทำความรู้จัก จักษุแพทย์คือใคร?

จักษุแพทย์คือแพทย์ผู้มีประสบการณ์เฉพาะทางด้านดวงตา ที่ผ่านทั้งการเรียนแพทย์พื้นฐาน อบรมเฉพาะทาง และทำหัตถการเกี่ยวกับดวงตามาพอสมควร จึงเข้าใจทั้งโครงสร้าง เปลือกตา กล้ามเนื้อ และเส้นประสาทในแบบที่ต้องอาศัยประสบการณ์จริงประกอบกัน

เมื่อพูดถึงการทำตาสองชั้น หมอตาอย่างจักษุแพทย์จึงมองลึกกว่าระดับผิว แต่คำนึงถึงความปลอดภัย การมองเห็น และผลลัพธ์ที่เหมาะกับใบหน้า พวกเขามองเห็นทั้งมุมความงามและการทำงานของดวงตาไปพร้อมกัน ทำให้ทุกขั้นตอนตั้งแต่ประเมินปัญหา วางตำแหน่งชั้นตา ไปจนถึงดูแลหลังทำ ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสมและปลอดภัยสำหรับแต่ละคน

ความแตกต่างระหว่างศัลยแพทย์ทั่วไปกับจักษุแพทย์

ศัลยแพทย์ทั่วไปมีประสบการณ์ด้านโครงสร้างใบหน้าในภาพรวม แต่ในงานที่เกี่ยวกับดวงตา อวัยวะที่บอบบางและซับซ้อนกว่าที่เห็น รายละเอียดเล็กๆ อย่างการยืดหดของกล้ามเนื้อตา การเคลื่อนไหวของเปลือกตา และความสมดุลของหนังตา ต่างต้องการความเข้าใจเชิงลึกมากกว่า

จักษุแพทย์จึงเข้ามาดูแลในจุดนี้ เพราะผ่านการอบรมเฉพาะทางและทำงานกับดวงตาโดยตรง ทำให้สามารถปรับรูปตาให้เข้ากับสรีระของแต่ละคนได้เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังช่วยประเมินความเสี่ยงเรื่องตาแห้ง ระคายตา การทำงานผิดปกติของดวงตาหลังทำ หรือการเปิด - ปิดตาที่ไม่สมดุลได้ดีกว่า ผลลัพธ์ที่ได้จึงปลอดภัยและใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน

การทำตาสองชั้นกับจักษุแพทย์ปลอดภัยอย่างไร?

การทำตาสองชั้นเกี่ยวกับโครงสร้างดวงตาที่ละเอียดอ่อนมาก ทั้งกล้ามเนื้อ เส้นประสาท และการกะพริบตาตามธรรมชาติ จึงต้องอาศัยความเข้าใจเชิงลึก เพื่อป้องกันปัญหาอย่างตาแห้ง ระคายตา หรือชั้นตาที่ไม่สมดุลในระยะยาว

เข้าใจโครงสร้างดวงตาเชิงลึก

จักษุแพทย์มีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับโครงสร้างดวงตา ตั้งแต่ตำแหน่งของกล้ามเนื้อตาที่ควบคุมการยกเปลือกตา เส้นประสาทที่เชื่อมโยงกับการกะพริบ ไปจนถึงการทำงานของเปลือกตาในชีวิตประจำวัน ช่วยให้แพทย์วางแผนตำแหน่งชั้นตาเหมาะสมกับสรีระของแต่ละคน และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด

การเลือกเทคนิคที่เหมาะกับแต่ละคน

การทำตาสองชั้นมีหลายเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นการเย็บสามจุด กรีดสั้น กรีดยาว หรือแบบผสมผสานแต่ละแบบให้ผลลัพธ์และฟื้นตัวต่างกัน จักษุแพทย์จะประเมินลักษณะเปลือกตาของแต่ละคนอย่างละเอียด เช่น ความหนาของผิว ชั้นไขมัน เปลือกตาตกหรือไม่ รวมถึงโครงสร้างกระดูกเบ้าตา เพื่อเลือกเทคนิคที่ตอบโจทย์รูปตาที่ต้องการ ช่วยให้ชั้นตาออกมาสมส่วน ดูเป็นธรรมชาติ และลดความเสี่ยงเรื่องบวมช้ำหรือระคายตาหลังทำ

ลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน

การทำตาสองชั้นหากประเมินไม่ละเอียด อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ตาปิดไม่สนิท หนังตาตก ชั้นตาไม่เท่ากัน หรืออาการตาแห้งจากการเปิด - ปิดตาผิดปกติ แต่จักษุแพทย์จะวินิจฉัยเพื่อป้องกันได้ตั้งแต่ก่อนผ่าตัด ทั้งตรวจการทำงานของกล้ามเนื้อตา ความแข็งแรงของเปลือกตา และความชุ่มชื้นของตา เพื่อวางแผนผ่าตัดให้เหมาะสม ลดความเสี่ยง และช่วยให้การฟื้นตัวราบรื่น

ขั้นตอนการทำตาสองชั้นโดยจักษุแพทย์

ขั้นตอนทำตาสองชั้นกับจักษุแพทย์ ตั้งแต่การประเมินดวงตาจนถึงการดูแลหลังทำ จะคำนึงถึงโครงสร้างตาและความแตกต่างของแต่ละคนเป็นหลัก จึงทำให้กระบวนการทั้งหมดเป็นระบบ มาดูขั้นตอนการทำตาสองชั้นโดยหมอตาหรือจักษุแพทย์กัน!

ตรวจประเมินก่อนทำ

1. ซักประวัติสุขภาพและปัญหาดวงตา แพทย์จะถามประวัติแพ้ยา โรคประจำตัว ยาที่ใช้อยู่ รวมถึงปัญหาดวงตาเดิม เช่น ตาแห้ง กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หรือเคยผ่าตัดตามาก่อน

2. ตรวจสายตาและการทำงานของกล้ามเนื้อตา ตรวจการมองเห็น การกะพริบตา การยกเปลือกตา และดูว่ามีภาวะหนังตาตกหรือกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมด้วยไหม

3. ประเมินโครงสร้างเปลือกตาและกระดูกเบ้าตา ดูความหนาของเปลือกตา ชั้นไขมัน ปริมาณผิวหนังส่วนเกิน รวมถึงรูปทรงกระดูกเบ้าตา เพื่อใช้วางแผนตำแหน่งชั้นตาที่เหมาะสม

4. ออกแบบรูปทรงและตำแหน่งชั้นตา แพทย์จะวัดและลองวาดตำแหน่งชั้นตาบนเปลือกตา ให้คุณลองลืม - หลับตาดูทรงก่อน เพื่อให้ได้รูปแบบที่เข้ากับใบหน้าและความต้องการ

5. อธิบายเทคนิคที่ใช้และความเสี่ยงที่ควรรู้ แจ้งเทคนิคที่เหมาะกับคุณ เช่น เย็บสามจุด กรีดสั้น กรีดยาว หรือแบบผสมผสาน พร้อมอธิบายผลลัพธ์ที่คาดหวัง ระยะฟื้นตัว และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา

ขั้นตอนระหว่างผ่าตัด

1. ทำความสะอาดและเตรียมบริเวณดวงตา แพทย์จะทำความสะอาดรอบดวงตาและปิดคลุมบริเวณโดยรอบเพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงการติดเชื้อ

2. ฉีดยาชาเฉพาะที่ ใช้ยาชาเฉพาะบริเวณเปลือกตา ทำให้รู้สึกแค่ตึงหรือกดเล็กน้อย แต่ไม่เจ็บระหว่างทำ

3. กรีดหรือสร้างรอยพับชั้นตา ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่เลือก แพทย์จะกรีดสั้น กรีดยาว หรือเจาะจุดสำหรับเย็บ เพื่อกำหนดตำแหน่งชั้นตาตามแผนที่ออกแบบไว้

4. จัดการชั้นไขมันและผิวหนังส่วนเกิน หากจำเป็น แพทย์จะนำไขมันส่วนเกินออก ปรับปริมาณไขมัน หรือจัดการผิวหนังให้ได้รูปทรงที่เหมาะสม เพื่อให้ชั้นตาเรียบสวยสมดุล

5. เย็บสร้างชั้นตาให้คงรูป ใช้ไหมชนิดพิเศษสำหรับผ่าตัดดวงตา เย็บยึดชั้นตาให้คงตำแหน่งดูเป็นธรรมชาติ โดยคำนึงการเปิด - ปิดตาที่สมดุลด้วย

6. ตรวจความสมมาตรก่อนปิดแผล ก่อนเย็บปิดแผล แพทย์จะให้ลืม - หลับตาเพื่อประเมินความเท่ากันของชั้นตา ปรับแก้หากจำเป็น เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาตามที่หวัง

7. ปิดแผลและทำความสะอาดขั้นสุดท้าย หลังเย็บปิดแผลเรียบร้อย จะทำความสะอาดอีกครั้งและติดแผล เพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้แผลสมานตัวดี

การดูแลหลังผ่าตัด

1. ตรวจประเมินชั้นตาและแผลผ่าตัด หลังผ่าตัดในช่วง 1 - 3 วัน หรือตามนัด แพทย์จะตรวจดูความบวม ช้ำ การสมานตัวของแผล และความสมมาตรของชั้นตา หากพบจุดที่ควรปรับ จะให้คำแนะนำทันที

2. ประเมินการเปิด - ปิดตาและอาการระคายผิว จักษุแพทย์ตรวจการกะพริบตา การปิดตาขณะหลับ รวมถึงอาการตาแห้ง แสบ เคือง หรือมีน้ำตาไหลผิดปกติ เพื่อมั่นใจว่าการทำงานของเปลือกตาปกติ

3. ปรับยาหยอดตาและยาทาแผลให้เหมาะสม หากมีอาการแห้งตา ระคายตา หรืออักเสบ แพทย์อาจปรับชนิดหรือความถี่ของยาหยอดตาและยาทาแผลให้เหมาะกับอาการของแต่ละคน

4. ดูแลการตัดไหมและรอยแผลเป็น เมื่อถึงกำหนดตัดไหม แพทย์จะตัดไหมอย่างระมัดระวัง พร้อมประเมินแนวแผล หากมีแนวโน้มเป็นแผลนูนหรือแข็ง อาจแนะนำวิธีดูแลเพิ่ม เช่น นวดแผลหรือใช้เจลลดรอยแผลเป็น

5. ติดตามผลระยะกลาง - ยาว ในบางเคส จักษุแพทย์จะนัดติดตามผลหลังผ่าตัดหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน เพื่อดูการเข้าที่ของชั้นตา ความสมดุลของกล้ามเนื้อตา และคุณภาพการมองเห็น

6. ให้คำแนะนำการใช้สายตาและการกลับไปใช้ชีวิตปกติ แพทย์จะแนะนำว่าช่วงไหนเหมาะจะกลับไปแต่งหน้า ใส่คอนแท็กต์เลนส์ ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ใช้สายตาหนักๆ เพื่อให้ชั้นตาเซตตัวราบรื่น

เปรียบเทียบทำตาสองชั้นทั่วไป VS. ทำกับจักษุแพทย์

การทำตาสองชั้นทั่วไปเน้นสร้างรอยพับให้สวยงามเป็นหลัก ใช้เทคนิคตามมาตรฐานศัลยกรรมตกแต่ง แต่ผู้ทำหัตถการอาจไม่ได้มีประสบการณ์ในระดับโครงสร้างดวงตา เช่น กล้ามเนื้อตา เส้นประสาท หรือการกะพริบตาตามธรรมชาติ ทำให้บางครั้งเกิดปัญหาเรื่องชั้นตาไม่เท่ากัน ตาปิดไม่สนิท หรือตาแห้ง

ในขณะที่การทำตาสองชั้นกับหมอจักษุแพทย์ จะมีมุมมองลึกกว่าเรื่องความสวยงาม เพราะแพทย์เข้าใจการทำงานของดวงตาในระดับโครงสร้างจริง สามารถประเมินความแข็งแรงของกล้ามเนื้อตา ความชุ่มชื้นของดวงตา และรูปแบบการเปิด - ปิดตาที่เฉพาะตัวของแต่ละคนได้ดีกว่า การเลือกเทคนิค การจัดการไขมัน และการวางตำแหน่งชั้นตาจึงทำแบบเฉพาะบุคคล ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน และคงคุณภาพการใช้สายตาในชีวิตประจำวันได้

เคสที่ควรเลือกทำกับจักษุแพทย์เป็นพิเศษ

แม้การทำตาสองชั้นจะดูเป็นหัตถการเล็กๆ แต่บางเคส ดวงตาต้องประเมินที่ละเอียดกว่าเดิม เพราะเกี่ยวกับกล้ามเนื้อตา การมองเห็น และโครงสร้างภายในซับซ้อน การเลือกทำกับหมอตาอย่างจักษุแพทย์จึงช่วยลดความเสี่ยงได้มากกว่า โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีปัญหาดวงตาเดิมหรือมีโครงสร้างตาที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ดังนี้

1. คนที่มีปัญหาหนังตาตกจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis)

ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือ Ptosis ไม่ได้เป็นแค่เรื่องชั้นตา แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อที่ยกเปลือกตาโดยตรง การแก้ไขจึงต้องใช้เทคนิคที่ลึกกว่าการกรีดหรือสร้างรอยพับทั่วไป จักษุแพทย์มีความเข้าใจกลไกการทำงานของกล้ามเนื้อตาและเส้นประสาทที่ควบคุมการยกเปลือกตาดี จึงสามารถประเมินระดับความอ่อนแรง วางแผนการยกกล้ามเนื้อ และเลือกวิธีผ่าตัดที่เหมาะสมได้

2. คนที่เคยทำตาสองชั้นมาก่อนแต่ผลลัพธ์ไม่เท่ากัน

การแก้ตาสองชั้นที่เคยทำมาแล้วถือเป็นเคสที่ต้องใช้ความละเอียดสูง เพราะโครงสร้างเปลือกตาอาจมีพังผืด ไขมันถูกตัดไปบางส่วน หรือชั้นตาเดิมยึดติดผิดตำแหน่ง จักษุแพทย์สามารถประเมินสาเหตุของความไม่เท่ากันได้ โดยอาศัยความรู้ด้านกายวิภาคตา เช่น การตรวจระดับกล้ามเนื้อตา การเคลื่อนไหวของเปลือกตา และตำแหน่งการยึดชั้นตาเดิม จากนั้นจึงวางแผนแก้ไขเฉพาะบุคคล

3. คนที่มีปัญหาสุขภาพดวงตา

คนที่มีภาวะตาแห้งเรื้อรัง ภูมิแพ้ตา เปลือกตาหย่อน หรือมีอาการระคายตาเป็นประจำ ควรรับการดูแลจากจักษุแพทย์ก่อนและระหว่างทำตาสองชั้น เนื่องจากสภาพดวงตาแบบนี้อาจทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ หรือเพิ่มความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน เช่น กะพริบตาไม่ปกติ ตาปิดไม่สนิท หรือชั้นตาไม่เข้าที่ จักษุแพทย์สามารถประเมินความเสี่ยงล่วงหน้าและปรับเทคนิคการผ่าตัดให้เหมาะสมได้

การเตรียมตัวก่อนทำตาสองชั้นกับจักษุแพทย์

• งดใช้ยาหรืออาหารเสริมที่เสี่ยงเลือดออก เช่น แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา หรือโสม ก่อนผ่าตัดประมาณ 1 - 2 สัปดาห์ (ตามคำแนะนำแพทย์)

• พักผ่อนให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงความเครียด เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวดี ลดการบวมช้ำหลังผ่าตัด

• งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 วันก่อนทำ เพราะมีผลต่อการหายของแผลและการไหลเวียนโลหิต

• เตรียมความสะอาดบริเวณใบหน้าและรอบดวงตา เลี่ยงการแต่งหน้า ต่อขนตา หรือใช้สกินแคร์ที่อาจก่อการระคายผิวในวันผ่าตัด

• แจ้งปัญหาดวงตาที่มีอยู่เดิมให้แพทย์ทราบ เช่น ตาแห้ง ภูมิแพ้ตา เคยผ่าตัดตามาก่อน หรือมีประวัติตาแดงเรื้อรัง เพื่อให้แพทย์วางแผนได้เหมาะสม

• เตรียมแว่นกันแดดสำหรับหลังผ่าตัด ช่วยลดความระคายผิวจากแสงและป้องกันฝุ่นเข้าบริเวณแผล

• วางแผนวันหยุดฟื้นตัว ควรมีเวลาพัก 3 - 7 วัน แล้วแต่เทคนิคที่ใช้ เพื่อให้บวมยุบและแผลเริ่มเข้าที่ก่อนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ

การดูแลหลังทำและการติดตามผล

• ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ใช้ยาทา - ยาหยอดตามเวลาที่กำหนด เพื่อลดอักเสบและป้องกันการติดเชื้อ

• ประคบเย็นสม่ำเสมอในช่วง 2 วันแรก ช่วยลดบวมและทำให้แผลยุบบวมเร็วขึ้น

• เลี่ยงขยี้ตาและสัมผัสแผล เพื่อป้องกันแผลแยกหรือการระคายผิว

• งดแต่งหน้าและงดใช้สกินแคร์บริเวณเปลือกตาชั่วคราว โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์แรก เพื่อไม่ให้สารเคมีเข้าบริเวณแผล

• พักสายตา ลดจ้องจอนานๆ เพื่อลดอาการตาแห้งและช่วยให้แผลฟื้นตัวเร็วขึ้น

• เลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากหรือออกกำลังกายหนัก เพราะเหงื่ออาจทำให้แผลระคายหรือเสี่ยงติดเชื้อ

• มาตรวจตามนัดทุกครั้ง จักษุแพทย์จะประเมินความสมดุลของชั้นตา และการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อ พร้อมให้คำแนะนำเพิ่มหากจำเป็น

• ติดตามผลระยะยาว หากมีอาการตาแห้ง ระคายตา หรือลืมตา - หลับตาไม่สมดุล ควรแจ้งแพทย์ทันทีเพื่อประเมินและดูแลเพิ่มเติม

ทำตาสองชั้นกับจักษุแพทย์ที่เศาณานนท์คลินิก (Saonanon) ดีอย่างไร

• รศ.พญ.เปรมจิต เศาณานนท์ จักษุแพทย์ (จักษุตกแต่งและเสริมสร้าง) แพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการผ่าตัดเปลือกตา ทั้งเพื่อความสวยงามและการรักษาโรค

• แพทย์ได้รับการยอมรับทั้งด้านความเชี่ยวชาญทางวิชาการและฝีมือการผ่าตัดในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในการแก้ไขตาสองชั้นจากการศัลยกรรม ถุงใต้ตา และหนังตาเกินในผู้สูงอายุ

• มั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอนการรักษาจะดำเนินไปอย่างประณีต และได้มาตรฐาน ราคาสมเหตุสมผล พร้อมมีรีวิวเทียบให้ดูความต่างระหว่างก่อนทำและหลังทำ

• คลินิกให้ความสำคัญกับผลลัพธ์และความพึงพอใจของผู้รับบริการเป็นหลัก มากกว่ามุ่งหวังผลกำไร จึงสามารถมั่นใจได้ว่าทุกคำแนะนำและการดูแลที่ได้รับ จะถูกออกแบบมาเพื่อประโยชน์และความเหมาะสมสำหรับคุณเสมอ

สรุป

การทำตาสองชั้นเกี่ยวกับโครงสร้างดวงตาที่ละเอียดอ่อน จึงต้องอาศัยประสบการณ์เฉพาะทางของจักษุแพทย์ในการประเมินกล้ามเนื้อตา เส้นประสาท และความสมดุลของเปลือกตาแต่ละคน ขั้นตอนตั้งแต่ตรวจประเมิน เทคนิคการผ่าตัด ไปจนถึงการดูแลหลังทำ ออกแบบมาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่หวัง คนที่มีภาวะหนังตาตก กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ปัญหาตาแห้ง หรือเคยทำมาก่อนแล้วไม่เท่ากัน ก็สามารถแก้ไขได้ราบรื่นกว่าเดิมเมื่อทำโดยจักษุแพทย์

Saonanon Clinic ให้บริการทำตาสองชั้นโดยจักษุแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านดวงตา พร้อมประเมินโครงสร้างอย่างละเอียดและเลือกเทคนิคที่เหมาะกับแต่ละบุคคล นอกจากนี้ยังมีบริการแก้ตาสองชั้น แก้หนังตาตกจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง และดูแลสุขภาพดวงตา เพื่อให้ได้ชั้นตาสวย และมั่นใจในทุกขั้นตอน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำตาสองชั้นกับจักษุแพทย์ (FAQ)

ทำตาสองชั้นกับจักษุแพทย์เจ็บไหม?

การทำตาสองชั้นกับหมอจักษุแพทย์โดยทั่วไปไม่เจ็บมาก เพราะจะฉีดยาชาเฉพาะที่ก่อนเริ่มผ่าตัด จะรู้สึกแค่แรงดึงหรือแรงกดเล็กน้อยในระหว่างผ่าตัดเท่านั้น หลังยาชาหมดฤทธิ์อาจรู้สึกตึงหรือปวดแผลเล็กน้อย สามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดตามคำแนะนำแพทย์

แผลผ่าตัดตาสองชั้นอยู่ตรงไหน เห็นชัดไหม?

แผลผ่าตัดตาสองชั้นจะอยู่บริเวณรอยพับของชั้นตาบน แพทย์จะกรีดซ่อนแผลให้ตรงกับรอยพับ เมื่อแผลหายดีทำให้มองเห็นไม่ชัดหรือแทบไม่เห็นรอยแผลเลย โดยเฉพาะเมื่อเปิดตาปกติ

คนที่ไม่มีปัญหาตาทำตาสองชั้นกับจักษุแพทย์ได้ไหม?

แม้ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาก็สามารถทำตาสองชั้นกับจักษุแพทย์ได้ หากต้องการปรับรูปลักษณ์ให้ดวงตาดูคมชัดและสดใสมากขึ้น เพราะจักษุแพทย์มีประสบการณ์รอบดวงตาทั้งด้านความปลอดภัยและความงาม

การทำตาสองชั้นมีผลต่อการมองเห็นไหม?

โดยปกติการทำตาสองชั้นไม่ส่งผลกระทบต่อการมองเห็น เนื่องจากเป็นการผ่าตัดเฉพาะที่เปลือกตาชั้นนอกเท่านั้น อาจมีอาการตาพร่าหรือระคายตาเล็กน้อยหลังทำ แต่จะดีขึ้นตามปกติ หากเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์ความเสี่ยงจะต่ำมาก