top of page
ค้นหา

คิ้วตกเกิดจากอะไร? มีวิธีแก้ปัญหาด้วยเทคนิคไหนบ้างให้คิ้วทรงสวย

Key Takeaway

  • คิ้วตกเป็นภาวะที่แนวคิ้วเลื่อนต่ำกว่าตำแหน่งปกติ โดยเฉพาะหางคิ้วที่ตกลงมา ทำให้ดวงตาดูเศร้า เหนื่อยล้า และไม่สดใสเหมือนเดิม

  • ปัญหาคิ้วตกมักเกิดจากอายุที่มากขึ้น กรรมพันธุ์ กล้ามเนื้อเปลือกตาและหน้าผากทำงานผิดปกติ หนังตาหนา อุบัติเหตุ หรือภาวะหลังทำตาสองชั้น

  • ปัญหาคิ้วตกทำให้ใบหน้าดูเศร้าหมอง แก่กว่าวัย สูญเสียความมั่นใจ อีกทั้งยังอาจบดบังการมองเห็นและทำให้เกิดริ้วรอยจากการเกร็งหน้าผาก

  • ปัญหาคิ้วตกสามารถแก้ได้ทั้งแบบผ่าตัด เช่น Direct Brow Lifting, Endoscopic Brow Lift, Temporal Lift และแบบไม่ผ่าตัด เพื่อยกคิ้วให้ได้รูปและดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ


เคยส่องกระจกแล้วรู้สึกว่า… ทำไมใบหน้าแลดูมีอายุ หย่อนคล้อย หน้าดูเหนื่อย ดูเศร้า ดวงตาไม่สดใส ทั้งที่จริงไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยไหม? บางครั้งต้นเหตุก็อยู่ที่ปัญหา ‘คิ้วตก’ ที่พบเจอได้ในทุกวัย โดยเฉพาะในวัยผู้สูงอายุ เพราะผิวรอบดวงตาจะค่อยๆ สูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดความหย่อนคล้อยตามวัย ส่งผลต่อความมั่นใจ บุคลิกภาพ และความสวยงามบนใบหน้า ตลอดจนการใช้ชีวิต และประสิทธิภาพในการมองเห็น

คิ้วตกเกิดจากกรรมพันธุ์ อายุที่มากขึ้น กล้ามเนื้อเปลือกตาและหน้าผากทำงานผิดปกติ หนังตาหนา อุบัติเหตุ หรือแม้แต่ปัญหาหลังทำตาสองชั้น จนทำให้รูปหน้าดูเปลี่ยนไปไม่รู้ตัว แต่คิ้วตกสามารถแก้ได้ด้วยการศัลยกรรมยกคิ้วและวิธีแบบไม่ผ่าตัด ที่ช่วยคืนความสดใสให้ดวงตาและใบหน้าอีกครั้ง บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่าทำไมคิ้วถึงตกได้ และทางออกไหนเหมาะสม ช่วยแก้ปัญหาได้จริง


อาการคิ้วตกคืออะไร มีลักษณะอย่างไร?

อาการคิ้วตกคืออะไร มีลักษณะอย่างไร?

คิ้วที่สวยและสมดุลจะช่วยเสริมให้ใบหน้าดูมีมิติและเป็นธรรมชาติ รูปคิ้วของแต่ละเพศต่างกันตามโครงหน้า โดยคิ้วผู้หญิง ควรมีหัวคิ้วใหญ่กว่าหางคิ้วเล็กน้อย หางคิ้วเรียวลงและโก่งในแนวเดียวกับขอบตาดำด้านข้างหรือหางตา ส่วนคิ้วผู้ชาย ควรมีลักษณะตรง ไม่โก่งมาก อยู่ระดับเดียวกับขอบกระดูกเบ้าตา และมีความหนาเข้มเสมอกัน เพื่อให้ใบหน้าดูคมชัดและเป็นธรรมชาติ


แต่ถ้ารู้สึกว่าดวงตาดูเหนื่อย เศร้า หรือไม่เท่ากันทั้งสองข้าง อาจกำลังเผชิญกับปัญหาคิ้วตก (Brow Ptosis) ก็ได้ โดยทั่วไปแล้วอาการคิ้วตกสามารถสังเกตได้จากลักษณะดังนี้


  • แนวคิ้วอยู่ต่ำกว่าตำแหน่งปกติ โดยเฉพาะบริเวณหางคิ้วที่ตกลงมาชัดกว่าหัวคิ้ว

  • ดวงตาดูเล็กลง หรือเปิดตาได้ไม่เต็มที่เหมือนเดิม

  • หางตาตกตามแนวคิ้ว ทำให้ใบหน้าดูเศร้าหมอง เหมือนคนเหนื่อยอยู่ตลอดเวลา

  • หนังตาหรือผิวบริเวณรอบดวงตาหย่อนคล้อย จนบางครั้งบดบังการมองเห็นบางส่วน

  • มีพฤติกรรมเลิกหน้าผากหรือเกร็งคิ้วขึ้นอยู่เสมอ เพื่อให้ตาเปิดกว้างขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกิดริ้วรอยหรืออาการปวดศีรษะในระยะยาว


สาเหตุปัญหาคิ้วตก เกิดจากอะไร?

สาเหตุปัญหาคิ้วตก เกิดจากอะไร?

อาการคิ้วตกไม่ได้เกิดจากอายุเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้แนวคิ้วเลื่อนต่ำกว่าปกติ ทั้งจากโครงสร้างผิว กล้ามเนื้อ หรือพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน โดยสามารถจำแนกสาเหตุหลักๆ ได้ดังนี้


กรรมพันธุ์

บางคนอาจมีปัญหาคิ้วตกตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งที่ไม่ได้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง นั่นอาจมาจากกรรมพันธุ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบได้ แม้จะไม่บ่อยก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว คิ้วตกจากกรรมพันธุ์เกิดจากความผิดปกติของเนื้อเยื่อร่างกายโดยรวม คนที่มีภาวะนี้สังเกตได้ว่าคิ้วตกข้างเดียว หรืออาจเป็นทั้งสองข้างมาแต่กำเนิด ลักษณะนี้จึงไม่เกี่ยวข้องกับอายุหรือสภาพผิว แต่เป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดนั่นเอง


อายุที่เพิ่มมากขึ้น

เมื่ออายุมากขึ้น หลายคนอาจเริ่มสังเกตว่าคิ้วค่อยๆ เลื่อนต่ำลงโดยไม่รู้ตัว นี่คือผลจากกระบวนการเสื่อมของผิวและกล้ามเนื้อที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ถือเป็นสาเหตุที่พบมากที่สุดในกลุ่มคนที่มีปัญหาคิ้วตก ซึ่งปัญหานี้เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่ออ่อนบริเวณคิ้ว การหย่อนคล้อยของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective Tissue) ที่มีหน้าที่ยึดเหนี่ยวผิวหนังและพยุงอวัยวะให้คงรูป


รวมถึงกล้ามเนื้อฟรอนทาลิส (Frontalis Muscle) ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อบางๆ บริเวณหน้าผากที่ทำหน้าที่ยกระดับคิ้วขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเหล่านี้อ่อนแรงลงตามวัย แนวคิ้วจึงตกลงมา ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยและเศร้ากว่าที่รู้สึกจริง


ภาวะกล้ามเนื้อเปลือกตาผิดปกติ

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คิ้วตกได้คือ ภาวะกล้ามเนื้อเปลือกตาผิดปกติ ซึ่งเกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อรอบดวงตาไม่สมดุล เมื่อกล้ามเนื้อที่ใช้ยกคิ้วหรือเปิดตาอ่อนแรงลง แนวคิ้วจึงค่อยๆ ลดระดับลง โดยเฉพาะในคนที่มีปัญหาทางระบบประสาทหรือใช้สายตาหนักในระยะยาว ภาวะกล้ามเนื้อหน้าผาก กล้ามเนื้อเปลือกตา หรือกล้ามเนื้อรอบดวงตาอ่อนแรง เป็นโรคทางประสาทของกล้ามเนื้อที่ส่งผลให้เกิดการตกของคิ้วและเปลือกตา ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อความสวยงามของใบหน้า แต่ยังอาจกระทบต่อการมองเห็น1และความมั่นใจในชีวิตประจำวันอีกด้วย


ภาวะหนังตาหนา

หลายคนอาจไม่รู้ว่าหนังตาหนาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คิ้วตกได้เช่นกัน เพราะเมื่อบริเวณเปลือกตามีเนื้อหรือไขมันมาก น้ำหนักของผิวบริเวณนั้นจะกดทับลงมาที่แนวคิ้วอยู่ตลอดเวลา ทำให้คิ้วค่อยๆ เลื่อนต่ำลง โดยเฉพาะในช่วงอายุมากขึ้นที่ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและเริ่มหย่อนคล้อย คนที่มีหนังตาหนา หนังตาอูม มีเนื้อ หรือไขมันบริเวณเปลือกตาเยอะ เมื่อผิวหย่อนคล้อยตามวัยจะมีโอกาสคิ้วตกและหนังตาตกได้มากกว่าคนอื่น จึงสังเกตได้ว่าดวงตาดูเล็กลงและใบหน้าดูอ่อนล้ากว่าความเป็นจริง


ภาวะกล้ามเนื้อหน้าผากอ่อนแรง

คิ้วตกอาจเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อหน้าผากอ่อนแรงได้เช่นกัน กล้ามเนื้อส่วนนี้มีชื่อว่าฟรอนทาลิส ช่วยยกคิ้วให้คงอยู่ในระดับปกติ เมื่อกล้ามเนื้อบริเวณนี้อ่อนแรงหรือทำงานได้ไม่เต็มที่ คิ้วจะค่อยๆ ตกลงมาทีละน้อย ส่งผลให้หางคิ้วและหางตาดูต่ำกว่าปกติ ใบหน้าดูเศร้า เหนื่อย และขาดความสดใส นับเป็นสาเหตุหนึ่งที่มักพบได้ในผู้สูงอายุหรือคนที่ใช้กล้ามเนื้อหน้าผากเกร็งบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน


ปัญหาหลังทำตาสองชั้น

หลายคนอาจสังเกตว่าหลังทำตาสองชั้นไปสักพัก ใบหน้าดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณคิ้วและหางตาที่ดูตกลงกว่าเดิม ทั้งที่ตั้งใจจะให้ดวงตาดูสดใสขึ้น สาเหตุหนึ่งมาจากการผ่าตัดตาสองชั้น ที่ผ่าตัดเอาหนังตาส่วนเกินออกไป ทำให้คิ้วตกและหนังตาตกในภายหลังได้ เมื่อเวลาผ่านไป กล้ามเนื้อรอบดวงตาและหน้าผากต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อชดเชย ส่งผลให้แนวคิ้วค่อยๆ เลื่อนต่ำลง และทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยหรือเศร้ากว่าที่ควรจะเป็นนั่นเอง


อุบัติเหตุบริเวณรอบดวงตา

ปัญหาคิ้วตกอาจมีจุดเริ่มต้นจากอุบัติเหตุที่หลายคนคาดไม่ถึง เช่น การกระแทกหรือบาดเจ็บบริเวณรอบดวงตา ส่งผลต่อกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ยกคิ้วโดยตรง หรือกระดูกบริเวณคิ้ว ทำให้แนวคิ้วไม่สามารถกลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิมได้ตามธรรมชาติ รวมถึงอาการบาดเจ็บที่ทำให้เกิดอัมพาตบนใบหน้า (Facial Palsy) เช่น การผ่าตัดต่อมน้ำลาย (Parotid Gland Surgery) หรือการผ่าตัดเพื่อจัดกระดูกโหนกแก้ม (Zygomatic Arch Surgery) ทำให้คิ้วตกลงได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อหรือเส้นประสาทที่ควบคุมการยกคิ้วได้รับความเสียหายนั่นเอง


รังสียูวี

หลายคนอาจไม่รู้ว่าแสงแดดก็เป็นอีกหนึ่งตัวการที่ทำให้คิ้วตกได้ รังสียูวี หรือรังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet – UV) จากแสงแดดสามารถทำลายคอลลาเจนและอิลาสติน (Elastin) ใต้ผิวหนัง ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญที่ช่วยพยุงผิวให้อยู่ในตำแหน่งเดิม เมื่อผิวบริเวณหน้าผากและรอบดวงตาเริ่มสูญเสียความยืดหยุ่น แนวคิ้วจึงค่อยๆ หย่อนลงตามแรงโน้มถ่วงของใบหน้าในระยะยาว นอกจากนี้ การเผชิญแสงแดดโดยไม่ป้องกันยังเร่งให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยเร็วกว่าปกติอีกด้วย


ปัญหาคิ้วตก ส่งผลเสียอย่างไรต่อใบหน้า

ปัญหาคิ้วตก ส่งผลเสียอย่างไรต่อใบหน้า

เวลามองหน้าใคร เรามักจะสังเกตดวงตาและคิ้วก่อนเสมอ เพราะเป็นจุดที่สะท้อนอารมณ์และบุคลิกได้ชัดเจนที่สุด ผิวหน้าบริเวณรอบดวงตาเป็นจุดที่สังเกตได้ง่าย เมื่อคิ้วตกจึงสามารถมองเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นความไม่สมดุลของใบหน้า หรือภาพลักษณ์ที่ดูเหนื่อยล้า โดยผลเสียของคิ้วตกมีอยู่หลายอย่าง ดังนี้

  • คิ้วไม่สมส่วน ขาดความสมดุล ทำให้โครงหน้าดูเปลี่ยนไป

  • ตาไม่เท่ากัน โดยเฉพาะในกรณีที่คิ้วตกแค่ข้างเดียว จะยิ่งเห็นความแตกต่างได้ชัด

  • หัวคิ้วตก ทำให้ใบหน้าดูดุ หรือเหมือนคนอารมณ์ไม่ดี

  • หางคิ้วตก ส่งผลให้ใบหน้าดูเศร้า เหนื่อยล้า และไม่สดใส

  • ทำให้ใบหน้าแลดูแก่กว่าวัย และสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง

  • ในกรณีที่คิ้วตกมาก อาจส่งผลต่อการมองเห็น โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่มีผิวหนังรอบดวงตาหย่อนคล้อยร่วมด้วย


‘คิ้ว’ กับความเชื่อเรื่องโหงวเฮ้ง

ตามศาสตร์โหงวเฮ้ง คิ้วถือเป็นส่วนสำคัญที่บ่งบอกถึงบุคลิก ภาพลักษณ์ และพลังชีวิตของเจ้าของใบหน้าได้ดี เพราะคิ้วเปรียบเสมือนกรอบตาที่สะท้อนทั้งอารมณ์และโชคลาภทางด้านความสัมพันธ์ การงาน และสุขภาพ คิ้วผู้หญิงที่สวยตามหลักโหงวเฮ้ง คือคิ้วที่เรียวยาว โค้งได้รูป หัวคิ้วไม่หนาเกินไปและหางคิ้วไม่ตก สื่อถึงความอ่อนโยน มีเสน่ห์ เข้ากับคนง่าย และมักได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่


ส่วนคิ้วผู้ชายที่ดูดีตามโหงวเฮ้ง จะเป็นคิ้วที่หนาเป็นเส้นชัด ไม่กระจัดกระจาย โค้งรับกับกระดูกเบ้าตา และมีความสมมาตรทั้งสองข้าง บ่งบอกถึงความมั่นใจ ความเป็นผู้นำ และมีวาสนาดีในด้านการงานและการเงิน ดังนั้น คิ้วที่ได้รูปและสมดุลไม่เพียงช่วยเสริมความงาม แต่ยังส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมดูโดดเด่น มีพลัง และน่าเชื่อถือมากขึ้นอีกด้วย


แนวทางการรักษาและวิธีแก้คิ้วตกในปัจจุบัน

ปัญหาคิ้วตกแม้จะดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่กลับส่งผลต่อทั้งบุคลิกและความมั่นใจในชีวิต การแก้ไขให้คิ้วยกขึ้นเหมาะสมช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ สดใสขึ้น และลดอาการเมื่อยล้ารอบดวงตาอีกด้วย ปัจจุบันมีทั้งวิธีศัลยกรรมและวิธีไม่ผ่าตัด ที่สามารถช่วยปรับแนวคิ้วให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่สมดุลได้ โดยแต่ละวิธีมีข้อดีและความเหมาะสมต่างกันไปตามสภาพผิวและความต้องการของแต่ละคน


วิธีแก้คิ้วตกโดยไม่ผ่าตัด

วิธีแก้คิ้วตกโดยไม่ผ่าตัด

การแก้ปัญหาคิ้วตกแบบไม่ผ่าตัด เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่อยากปรับรูปคิ้วให้ยกกระชับขึ้น โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการศัลยกรรม วิธีนี้ช่วยให้ใบหน้าดูสดใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็วและพักฟื้นน้อย แต่ก่อนทำควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้แพทย์ประเมินลักษณะคิ้ว โครงสร้างใบหน้า อายุ และผลลัพธ์ที่ต้องการ เพื่อเลือกแนวทางที่เหมาะสม


วิธีไม่ผ่าตัดมีข้อดีคือ สะดวก ปลอดภัย เจ็บน้อย ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น แต่ผลลัพธ์จะอยู่ได้แค่ชั่วคราว และอาจไม่เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีความหย่อนคล้อยมาก การแก้คิ้วตกแบบไม่ผ่าตัดทำได้หลายวิธี ดังนี้


1. ฉีดโบท็อกซ์

สำหรับใครที่เริ่มรู้สึกว่าคิ้วตกเล็กน้อย แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องผ่าตัด ‘การฉีดโบท็อกซ์’ ถือเป็นทางเลือกที่ช่วยยกคิ้วให้กลับมาดูสดใสได้ เป็นการฉีดสารสกัดจากคลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) ที่อยู่ในรูปของโปรตีน เพื่อยับยั้งการทำงานของระบบประสาท ทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานช้าลง ส่งผลให้ใบหน้าดูเต่งตึง กระชับ และลดเลือนริ้วรอย


โดยเฉพาะในกรณีฉีดโบท็อกซ์บริเวณคิ้ว (Botox Brow Lift) หรือ Browtox ยกคิ้ว จะช่วยยับยั้งกล้ามเนื้อใต้คิ้วให้ผ่อนคลาย ทำให้แนวคิ้วยกขึ้นเล็กน้อยและดวงตาดูเปิดกว้างขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 3 - 4 เดือน เหมาะสำหรับคนที่มีคิ้วตกไม่มากและอายุยังน้อย ข้อดีคือเห็นผลเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น แต่ข้อเสียคือผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานและต้องฉีดซ้ำเพื่อคงสภาพเดิม


2. ร้อยไหม

อีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมคือ ‘การร้อยไหม’ เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่พร้อมทำศัลยกรรม แต่ต้องการยกคิ้วให้ดูโฉบเฉี่ยวขึ้น เป็นหัตถการที่ช่วยปรับรูปหน้า กระชับผิว และแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยการใช้ไหมละลายสอดเข้าไปในชั้นผิวด้วยเข็มนำเส้นไหมชนิดที่มีเงี่ยง (Bidirectional Barbed Thread) เมื่อสอดลงไปใต้ผิว เงี่ยงของไหมจะช่วยเกี่ยวและดึงผิวขึ้น ทำให้บริเวณหางคิ้วและหางตาถูกยกขึ้นทันที

เหมาะกับทั้งคนอายุน้อยและคนที่เริ่มมีอายุ รวมถึงคนที่มีหางตาหรือหางคิ้วหย่อนคล้อยมาก ข้อดีคือเห็นผลได้หลังทำ ไม่ต้องพักฟื้นมาก ส่วนข้อเสียคือผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 4 - 12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของเส้นไหม และเนื่องจากบริเวณรอบคิ้วมีผิวบาง จึงอาจรู้สึกถึงก้อนนูนเล็กๆ ใต้ผิวได้ในบางราย


3. ฉีดฟิลเลอร์

‘การฉีดฟิลเลอร์’ เหมาะกับคนที่คิ้วตกเพราะเนื้อหรือไขมันใต้ผิวลดลงตามอายุ ฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มบริเวณใต้คิ้วหรือรอบดวงตาให้ผิวดูตึงขึ้น ดันแนวคิ้วให้ยกสูงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และช่วยให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น ข้อดีคือเห็นผลเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติและสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ ทั้งยังช่วยลดรอยลึกหรือรอยย่นรอบดวงตาได้ในคราวเดียว ข้อเสียคือผลลัพธ์อยู่ได้แค่ 6 - 12 เดือน ต้องฉีดซ้ำเมื่อสารฟิลเลอร์สลาย และหากทำโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ อาจทำให้บวมเป็นก้อนได้ในบางจุด


4. Ulthera

‘Ulthera’ เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงยิงลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้และชั้นกล้ามเนื้อใต้ผิว (SMAS) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ผ่าตัดดึงหน้า พลังงานนี้กระตุ้นให้เกิดการหดตัวของคอลลาเจนและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยยกกระชับบริเวณหางคิ้วและหางตาที่หย่อนคล้อย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น


ข้อดีคือไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลหลังทำบางส่วน และจะค่อยๆ ดีขึ้นเต็มที่ภายใน 2 - 3 เดือน ผลลัพธ์อยู่ได้ราว 6 - 12 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน ข้อเสียคืออาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยระหว่างทำ และจำเป็นต้องทำซ้ำปีละ 1 - 2 ครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์ให้นานขึ้น


5. Thermage

‘Thermage’ เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวและแก้ปัญหาคิ้วตกได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Radio Frequency – RF) ส่งความร้อนไปยังชั้นคอลลาเจนใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้เส้นใยคอลลาเจนหดตัวและสร้างใหม่ ทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตาและหางคิ้วตึงกระชับขึ้น คิ้วที่เคยตกจะถูกยกขึ้น


ข้อดีคือไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลหลังทำบางส่วน และจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 2 - 3 เดือน ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 1 - 2 ปี ช่วยให้ผิวแน่นและเรียบเนียนขึ้นทั่วใบหน้า ข้อเสียคือในระหว่างทำอาจรู้สึกอุ่นหรือแสบร้อนเล็กน้อย และเหมาะกับคนที่มีปัญหาคิ้วตกหรือผิวหย่อนคล้อยในระดับเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น หากหย่อนคล้อยมากอาจต้องใช้ร่วมกับวิธีอื่นเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดกว่า


6. Hifu

‘HIFU’ (High Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิว ใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูงยิงลึกลงไปถึงชั้น SMAS ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตาและหางคิ้วกระชับขึ้น คิ้วที่ตกจึงถูกยกขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้ดวงตาดูโตขึ้นและใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น


ข้อดีคือไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลบางส่วนได้หลังทำ และผลจะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นภายใน 1 - 2 เดือน อยู่ได้นานประมาณ 6 - 12 เดือน ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นทั่วใบหน้า แต่ข้อเสียคือผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและอายุของแต่ละคน ต้องทำซ้ำทุกปีเพื่อคงผลลัพธ์ และอาจรู้สึกเจ็บหรือระบมเล็กน้อยบริเวณที่ยิงพลังงานในระหว่างทำ


 

วิธีแก้คิ้วตกโดยการศัลยกรรมยกคิ้ว

สำหรับคนที่มีปัญหาคิ้วตกค่อนข้างมาก หรือมีผิวหนังบริเวณรอบดวงตาหย่อนคล้อยจนบดบังการมองเห็น การทำ ‘ศัลยกรรมยกคิ้วถือเป็นทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและนานกว่าวิธีอื่น เพราะช่วยแก้ได้ตรงจุดตั้งแต่ชั้นกล้ามเนื้อและผิวหนัง ทำให้รูปหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ


เหมาะกับคนที่มีคิ้วตกจากอายุหรือความหย่อนคล้อยของผิวในระดับมาก ช่วยยกแนวคิ้วให้กลับสู่ตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้ดวงตาดูกลมโตและสดใสขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้นานหลายปี ไม่จำเป็นต้องทำซ้ำบ่อย สามารถปรับแต่งทรงคิ้วให้รับกับรูปหน้าได้ด้วย


วิธีผ่าตัดมีด้วยกัน 3 รูปแบบ แต่ละเทคนิคมีข้อดี - ข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป ดังนี้


  1. Direct Brow Lifting เป็นการผ่าตัดที่ช่วยยกคิ้วโดยตรง ซ่อนแผลไว้ด้านบนของคิ้ว เหมาะสำหรับคนที่มีภาวะคิ้วตกชัดเจน วิธีนี้ให้ผลลัพธ์แม่นยำและเห็นผลหลังทำ ข้อดีคือแผลเล็กและควบคุมระดับการยกได้ตรงจุด แต่ข้อเสียคืออาจมีรอยแผลจางๆ บริเวณขอบคิ้วในบางราย

  2. Endoscopic Brow Lift เป็นการยกคิ้วด้วยการซ่อนแผลบริเวณไรผม ใช้กล้องส่องในการผ่าตัด ช่วยยกคิ้วและหน้าผากให้ดูตึงกระชับขึ้น เหมาะกับคนที่มีคิ้วตกไม่มาก ข้อดีคือรอยแผลซ่อนแนบเนียน ฟื้นตัวไว แต่ข้อเสียคือผลการยกอาจไม่ชัดเท่าการผ่าตัดโดยตรง

  3. Temporal Lift หรือที่รู้จักกันว่า การศัลยกรรมดึงขมับ เป็นการยกผิวบริเวณขมับและหางคิ้วขึ้น โดยเย็บแผลบริเวณไรผม ช่วยให้หางตาและหางคิ้วยกขึ้นดูเป็นธรรมชาติ ข้อดีคือซ่อนแผลดี หน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นโดยรวม แต่ข้อเสียคือเหมาะกับคนที่มีปัญหาคิ้วตกเพียงเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น


การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมยกคิ้ว

  • ควรงดอาหารเสริมจำพวกสมุนไพร ยา รวมถึงอาหารเสริมที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น วิตามิน วิตามินอี น้ำมันตับปลา แอสไพริน วาร์ฟาริน และยากลุ่มแก้ปวด NSAID อย่างน้อย 7 วัน ก่อนผ่าตัด 

  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนการผ่าตัด

  • งดฉีดฟิลเลอร์ และสารคลายกล้ามเนื้อบริเวณคิ้ว รอบดวงตา และหน้าผาก อย่างน้อย 1 เดือน 

  • ควรแจ้งโรคประจำตัวและประวัติการแพ้ยาให้แพทย์ทราบก่อนผ่าตัด

  • งดแต่งหน้าและใส่คอนแทกต์เลนส์ในวันผ่าตัด

  • พักผ่อนให้เพียงพอและดูแลสุขภาพให้แข็งแรง

  • ควรมีญาติหรือผู้ติดตามมาด้วยในวันที่ผ่าตัด

การดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมยกคิ้ว

  • หลังผ่าตัดควรประคบเย็น ในช่วง 2 วันแรก

  • นอนศีรษะสูงในช่วง 1 สัปดาห์แรก เพื่อช่วยลดบวม

  • งดออกกำลังกาย ยกของหนัก หรือออกแรงเยอะ ในช่วงสัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด

  • งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ 2 สัปดาห์ หลังผ่าตัด

  • สระผมได้หลังผ่าตัด 3 วัน และควรใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน

  • หมั่นสังเกตอาการหลังการผ่าตัด หากพบอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินอาการ

  • กินยาตามที่แพทย์สั่งจนหมด

  • เข้าพบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง


แก้คิ้วตกที่เศาณานนท์คลินิก (Saonanon) ดีอย่างไร

  • รศ.พญ.เปรมจิต เศาณานนท์ จักษุแพทย์ (จักษุตกแต่งและเสริมสร้าง) แพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการผ่าตัดเปลือกตา ทั้งเพื่อความสวยงามและการรักษาโรค

  • แพทย์ได้รับการยอมรับทั้งด้านความเชี่ยวชาญทางวิชาการและฝีมือการผ่าตัดในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในการแก้ไขตาสองชั้นจากการศัลยกรรม ถุงใต้ตา และหนังตาเกินในผู้สูงอายุ

  • มั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอนการรักษาจะดำเนินไปอย่างประณีต และได้มาตรฐาน ราคาสมเหตุสมผล พร้อมมีรีวิวเทียบให้ดูความต่างระหว่างก่อนทำและหลังทำ

  • คลินิกให้ความสำคัญกับผลลัพธ์และความพึงพอใจของผู้รับบริการเป็นหลัก มากกว่ามุ่งหวังผลกำไร จึงสามารถมั่นใจได้ว่าทุกคำแนะนำและการดูแลที่ได้รับ จะถูกออกแบบมาเพื่อประโยชน์และความเหมาะสมสำหรับคุณเสมอ


สรุป

อาการคิ้วตกเป็นภาวะที่แนวคิ้วเลื่อนต่ำกว่าตำแหน่งปกติ ทำให้ใบหน้าดูเศร้าหมอง เหนื่อยล้า และแก่กว่าวัย สาเหตุมาจากอายุที่มากขึ้น กรรมพันธุ์ ความผิดปกติของกล้ามเนื้อเปลือกตา หรือแม้แต่อุบัติเหตุ หากปล่อยไว้นานอาจส่งผลต่อการมองเห็นและบุคลิกภาพได้ การรักษามีทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด เช่น Direct Brow Lifting, Endoscopic Brow Lift และ Temporal Lift ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระดับความหย่อนคล้อยและความต้องการของแต่ละคน


Saonanon Clinic ให้บริการยกคิ้วและแก้ปัญหาคิ้วตกโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ด้วยเทคนิคที่ทันสมัย ทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ คืนความอ่อนเยาว์และความมั่นใจให้กับใบหน้าอีกครั้ง พร้อมให้คำปรึกษาและประเมินวิธีที่เหมาะสมเฉพาะบุคคลอย่างละเอียดทุกขั้นตอน


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคิ้วตก (FAQ)


Sub Brow Lift อยู่ได้กี่ปี?

การทำ Sub Brow Lift มีผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานประมาณ 5 - 10 ปี ขึ้นกับสภาพผิวและการดูแลตัวเองของแต่ละคน หลังผ่าตัดคิ้วจะดูเป็นธรรมชาติและปัญหาคิ้วตกมักจะไม่กลับมาเร็วเหมือนวิธีอื่นๆ


การยกคิ้วเอนโดไทน์ (Endotine) อยู่ได้นานแค่ไหน?

การยกคิ้วด้วยเอนโดไทน์ (Endotine Brow Lift) สามารถคงผลลัพธ์ได้ประมาณ 5 - 10 ปี แม้เอนโดไทน์จะละลายไปเองในร่างกายภายใน 1 ปี แต่เนื้อเยื่อที่สร้างใหม่จะช่วยคงรูปคิ้วเดิมไว้ ทำให้ผลลัพธ์ยาวนานและดูธรรมชาติ


แก้ปัญหาคิ้วตกต้องพักฟื้นไหม?

หลังแก้ปัญหาคิ้วตกด้วยการผ่าตัด จะพบอาการบวมและฟกช้ำเล็กน้อย ซึ่งต้องพักฟื้นประมาณ 5 - 7 วัน หลังจากนั้นสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพียงแต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักๆ ในช่วงแรก




 
 
 

ความคิดเห็น


กดเพื่อนำทาง

เศาณานนท์คลินิก 

34 ซ.ทองหล่อ 25 ถ.สุขุมวิท 55 กท. 10110

กดเพื่อโทร

Tel.  0909463090

Whatsapp : +66932705000

 

  • Facebook Social Icon
  • YouTube Social  Icon
  • Instagram

กดจองคิวตรวจออนไลน์

line-icon.png

กด add Line

facebook : Saonanon clinic

กดเพื่อเข้า FB

bottom of page